7 มิ.ย.66 – ประธาน กมธ.การสาธารณสุข วุฒิสภา นำคณะศึกษาดูงานโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี แนะ โรงพยาบาลเน้นส่งเสริมความรู้ด้านสุขภาพและป้องกันโรคให้ประชาชน ลดปัญหาการเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรังที่สามารถรักษาหายได้ด้วยตนเอง

image

         นายแพทย์เจตน์ ศิรธรานนท์ ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การสาธารณสุข วุฒิสภา พร้อมคณะ ลงพื้นที่ศึกษาดูงานเกี่ยวกับการบริหารจัดการระบบบริการสุขภาพของหน่วยบริการและเครือข่ายในพื้นที่ ระบบการส่งต่อ และการบริหารจัดการงบประมาณ รวมทั้งการพัฒนาระบบสารสนเทศและเชื่อมโยง Smart Hospital ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ อ.เมือง จ.อุบลราชธานี  โดยมี นายกำพล สิริรัตตนนท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ธีระพงษ์ แก้วภมร นายแพทย์สาธารณสุข จ.อุบลราชธานี และนายแพทย์มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมคณะให้การต้อนรับ โดย กมธ.ได้รับทราบข้อมูลว่า โรงพยาบาลในเขตสุขภาพที่ 10 ได้บูรณาการการดำเนินงานร่วมกัน เพื่อลดความแออัดของโรงพยาบาลต่าง ๆ และเพิ่มการเข้าถึงบริการที่มีคุณภาพ มาตรฐาน ของประชาชนในเขตพื้นที่ อาทิ โรงพยาบาลสองคู่หู เป็นความร่วมมือระหว่างโรงพยาบาลศรีสะเกษและโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ และโรงพยาบาลมุกดาหาร ส่วนการส่งต่อผู้ป่วยมีการพัฒนาประสานงานโดยบูรณาการระดับเครือข่ายสุขภาพที่ 10 ซึ่งมีศูนย์ประสานงานส่งต่อและระบบงานที่ชัดเจน มีการแบ่งโซนรับผู้ป่วยเชื่อมโยงข้อมูล มีพยาบาลประจำ และ EP ให้คำปรึกษาตลอด 24 ชั่วโมง

        ภายหลัง กมธ.รับทราบข้อมูลได้มีข้อสังเกตและข้อเสนอแนะ ว่า ปัจจุบันผู้สูงอายุในประเทศไทยเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง โรงพยาบาลควรมีมาตรการเชิงรุก รองรับผู้สูงอายุที่ป่วยด้วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง และจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด - 19 ทำให้โรงพยาบาลต่าง ๆ ได้รับงบประมาณเพิ่มเติม หากมีการปรับอัตราค่าตอบแทนของบุคลากรด้านสาธารณสุขเพิ่มขึ้นจะไม่สามารถปรับลดลงได้ ดังนั้น ผู้บริหารโรงพยาบาลจึงต้องบริหารจัดการระบบการเงินการคลังอย่างรอบคอบ เพื่อลดปัญหาสภาพคล่องทางการเงินการคลังของโรงพยาบาล ทั้งนี้ สำนักงบประมาณพร้อมสนับสนุนงบประมาณ หากกระทรวงสาธารณสุขเสนองบประมาณด้านการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคแยกออกมาจากงบประมาณอื่นอย่างชัดเจน เพื่อให้การสร้างเสริมสุขภาพลงสู่การปฏิบัติอย่างแท้จริง

        นอกจากนี้ จ.อุบลราชธานี ควรร่วมมือกับวัดที่มีความเป็นเลิศในทางปฏิบัติสร้างศูนย์ปฏิบัติธรรมบริเวณใกล้เคียงกับวัด เพื่อรองรับพระสงฆ์และผู้ป่วยที่อยู่ในช่วงวาระสุดท้ายของชีวิต โดยมีแพทย์ พยาบาล นักโภชนาการ นักกายภาพดูแล เพื่อลดความแออัดและภาระโรงพยาบาลที่ต้องดูแลผู้ป่วยติดเตียง และโรงพยาบาลควรเน้นการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค โดยแพทย์และพยาบาลให้คำแนะนำในการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคกับผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษา เพื่อลดปัญหาการเกิดโรคไม่ติดต่อเรื้อรังที่สามารถรักษาให้หายได้ด้วยตนเอง พร้อมส่งเสริมการให้ความรู้เรื่องโรคพยาธิกับประชาชนผ่าน อสม.เนื่องจากเป็นปัญหาหนึ่งของสุขภาพในบางพื้นที่ และโรงพยาบาลควรมีการตรวจคัดกรองสุขภาพของประชาชนให้ครอบคลุมประชากรในพื้นที่ โดยกองทุนสุขภาพควรตระหนักว่า การลงทุนด้านการป้องกันสุขภาพมีความคุ้มค่ามากกว่าการรักษา โดยกองทุนควรกำหนดสิทธิให้พื้นฐานในการป้องกันโรคให้ครอบคลุมประชาชน อาทิ โรคมะเร็งลำไส้ และมะเร็งปากมดลูกที่สามารถตรวจคัดกรองและให้การดูแลรักษาก่อนโรคมีความรุนแรง

อรุณี ตันศักดิ์ดา ข่าว/เรียบเรียง

สำนักประชาสัมพันธ์ สนง.เลขาธิการวุฒิสภา ข้อมูล/ภาพ

ประมวลผลภาพ

วิดีโอ