ประธานคณะก้าวหน้า มองควรเป็นหน้าที่ กกต. รณรงค์ประชาชนลงสมัครเลือกตั้ง สว.

          นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า เปิดเผยถึงกระแสตอบรับของประชาชนต่อการลงสมัครเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ว่า ประชาชนมีความตื่นตัวกับการลงสมัครเลือกตั้ง สว. โดยจากการลงพื้นที่ที่ผ่านมาในหลายจังหวัดได้รับการตอบรับดีมาก มีผู้สนใจที่จะลงสมัคร สว. อิสระ จำนวนมาก ทำให้รู้สึกดีใจที่การรณรงค์ของคณะก้าวหน้า ทำให้ประชาชนตื่นตัวและเข้าใจความสำคัญของการเลือกตั้ง สว. ในครั้งนี้
          สำหรับการลงพื้นที่รณรงค์เชิญชวนให้ประชาชนมาสมัครเป็น สว. ในครั้งนี้ จะถูกมองว่าเป็นการนำการเมืองมาเกี่ยวข้องหรือไม่ นายธนาธร กล่าวว่า เป็นการรณรงค์ให้คนที่มีอุดมการณ์ต่าง ๆ มาสมัครเป็น สว. ซึ่งยิ่งมีคนสมัคร สว. มากเท่าไร คุณภาพการเลือกตั้ง สว. จะดีมากขึ้นเท่านั้น ดังนั้น จึงเชิญชวนให้ประชาชนทุกคนที่ไม่ว่าจะสนับสนุนพรรคการเมืองใดหรือมีอุดมการณ์ทางการเมืองแบบไหน หากมีคุณสมบัติครบ ขอเชิญชวนให้มาลงสมัครเป็น สว.
          ส่วนข้อครหาเรื่องการรณรงค์ให้มีผู้สมัครเลือกตั้ง สว. ของคณะก้าวหน้า จะทำให้ได้ สว. สีส้มนั้น นายธนาธร กล่าวว่า ต้องการ สว. ที่เป็น
กลาง เช่นเดียวกับ กกต. ที่ต้องตัดสินด้วยการยึดหลักความถูกต้อง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และศาลรัฐธรรมนูญ ที่มั่นคง คืนความยุติธรรมให้กับสังคม เพราะหากองค์กรเหล่านี้หันมาสนับสนุนพวกเราก็จะเกิดการลงถนนขึ้น
          เมื่อถามว่ามองอย่างไรที่การรณรงค์ให้มีผู้มาสมัคร สว. ถูกเพ่งเล็ง นายธนาธร กล่าวว่า กกต. ควรสนับสนุนตน และสิ่งที่ทำก็ควรจะเป็นหน้าที่ของ กกต. ที่รณรงค์ให้ประชาชนตื่นตัวมีส่วนร่วมกับการเลือกตั้งทุกระดับ จึงเชื่อว่าสิ่งที่ทำอยู่จะนำไปสู่การพัฒนาระบบการเมืองไทย ให้ประชาชนตื่นตัว เห็นถึงความสำคัญของการเลือก สว.
          ส่วนการร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระจะทำให้การเลือกตั้ง สว. สะดุดหรือไม่นั้น นายธนาธร กล่าวว่า ไม่ใช่เรื่องของคณะก้าวหน้า ในฐานะพลเมืองไทย คือ รณรงค์ให้ประชาชนตระหนักถึงการเลือกตั้ง สว. ว่า สว. ชุดที่ 67จะมีส่วนในการพัฒนาการเมืองไทยและฟื้นฟูประชาธิปไตยเป็นอย่างมาก เช่น การจะแก้ไขรัฐธรรมนูญได้หรือไม่ ส่วนหนึ่งขึ้นอยู่กับ สว. ว่าจะมี สว. ที่เห็นด้วยกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ปี 2560 ว่าจะมี สว. 70 คน เห็นด้วยหรือไม่ แม้กระทั่งการแต่งตั้งกรรมการองค์กรอิสระที่ไม่รับใบสั่งทางการเมืองก็ขึ้นอยู่กับ สว. ขณะที่กรณีโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (ไอลอว์) เปิดพื้นที่ในการแนะนำตัวผู้สมัคร สว. ผ่านเว็บไซต์นั้น มองว่าเป็นการส่งเสริมกระบวนการเลือก สว. ให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูลข่าวสารได้มากขึ้น ซึ่งนึกไม่ออกว่าเป็นเพราะเหตุใด กกต. จึงต้องการปิดเว็บไซต์นี้

ทัดดาว ทองอิ่ม ข่าว / เรียบเรียง