นางสุวรรณี สิริเวชชะพันธ์ รองประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การพาณิชย์และการอุตสาหกรรม วุฒิสภา และประธานคณะอนุกมธ.การลงทุนและเศรษฐกิจฐานราก วุฒิสภา ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าววิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์รัฐสภา ถึงผลงานตลอด 5 ปีที่ผ่านมาของคณะกมธ. โดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจฐานราก ว่าที่ผ่านมายังไม่มีการตั้งคณะกมธ.หรืออนุกมธ.ที่ดูแลเรื่องเศรษฐกิจฐานรากโดยตรง และเนื่องจากเศรษฐกิจฐานรากเป็นประเด็นที่ 16 ตามแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติที่จะต้องขับเคลื่อนให้บรรลุเป้าหมาย คณะกมธ.จึงได้ตั้งคณะอนุกมธ.การลงทุนและเศรษฐกิจฐานราก ขึ้นเพื่อดูแลเรื่องนี้โดยตรงและมีตนเองเป็นประธาน เนื่องจากการจะขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศให้เติบโตได้นั้นต้องทำให้เศรษฐกิจชุมชนเติบโตและแข็งแรงเสียก่อน ดังนั้นคณะอนุกมธ. จึงจัดทำรายงานปัจจัยสู่ความสำเร็จของเศรษฐกิจฐานรากขึ้น แต่เนื่องจากมีการแพร่ระบาดของโควิด-19 จึงเป็นอุปสรรคต่อการทำรายงานดังกล่าวที่จะต้องใช้เวลาในการสำรวจเชิงลึก จึงได้ทำรายงานฉบับเร่งด่วนขึ้นแทน ได้แก่รายงานการฟื้นฟูเศรษฐกิจฐานรากหลังโควิด-19 โดยได้รับความร่วมมือจากกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ที่ได้จ้างนักศึกษาจบใหม่ไปเก็บข้อมูลเชิงลึกในชุมชน ซึ่งในการทำรายงานฉบับนี้ได้มีการเชิญผู้แทนที่เกี่ยวข้อง อาทิ กองทุนหมู่บ้าน เพื่อหารือถึงการนำเงินกองทุนมาส่งเสริมวิชาชีพแทนการกู้ยืมเพียงอย่างเดียว ซึ่งผู้แทนจากกองทุนหมู่บ้าน ระบุว่าหากมีนโยบายจากรัฐบาลสามารถทำได้ ดังนั้นคณะอนุกมธ.จึงได้นำเรื่องดังกล่าวบรรจุไว้ในรายงานฉบับเร่งด่วน เพื่อเป็นข้อเสนอแนะว่าให้ใช้กลไกของกองทุนหมู่บ้านในการฟื้นฟูเศรษฐกิจฐานรากโดยการให้เงินอุดหนุนส่งเสริมวิชาชีพ อย่างไรก็ตามขณะนี้เริ่มเห็นบทบาทของกองทุนหมู่บ้านที่นำเอาเงินกองทุนไปสนับสนุนวิชาชีพของประชาชนแล้ว
นางสุวรรณี กล่าวถึงรายงาน เรื่องปัจจัยสู่ความสำเร็จของเศรษฐกิจฐานราก ว่าคณะอนุกมธ.ได้ลงพื้นที่ทั้งสิ้น 8 จังหวัด เพื่อทำ Workshop ให้กับประชาชน และรวบรวมประเด็นปัญหา โดยศึกษาเปรียบเทียบกับ 3 ประเทศ ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น เวียดนาม และถอดบทเรียนสังเคราะห์ข้อมูลจากสิ่งที่แต่ละประเทศประสบความสำเร็จ นำมาเป็นข้อเสนอส่งต่อให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และให้ทุกจังหวัดมีแผนส่งเสริมเศรษฐกิจฐานรากเพื่อเชื่อมโยงมาระดับประเทศ เช่น การเสนอให้มี Twilight Tours เพื่อเปิดโอกาสให้กับกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าสามารถขายของเป็นกะได้ นอกจากนี้พบว่าปัจจุบันมีหลายพื้นที่เปิดให้เข้าวัดช่วงเวลากลางคืนเพื่อให้ประชาชนได้ท่องเที่ยว และมีการเสนอให้ภาครัฐสอบถามข้อคิดเห็นจากประชาชนหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อสะท้อนข้อคิดเห็นของประชาชนถึงความต้องการในพื้นที่ ทั้งนี้ข้อเสนอส่วนใหญ่ในรายงานของคณะอนุกมธ.หน่วยงานส่วนใหญ่มีมติเห็นชอบและมีบางหน่วยงานเริ่มนำไปปฏิบัติแล้ว
ณัฐเดช เอียดปุ่ม /ข่าว/เรียบเรียง
