ผศ.ดร.สุริยะใส กตะศิลา คณบดีวิทยาลัยผู้นำและนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวถึงสถานการณ์ทางการเมืองภายหลังนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกมาเคลื่อนไหว และประเทศไทยกำลังเข้าสู่การเตรียมการจัดการเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ว่า ส่วนตัวมองว่าแม้ว่าการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) และสมาชิกวุฒิสภา (สว.) จะเป็นคนละสนามกัน แต่ในความเป็นจริงแล้วมีความเกี่ยวพันกัน เพราะจะเป็นการเปลี่ยนผ่านจาก สว. ชุดปัจจุบันไปสู่ สว. ชุดใหม่ ตนเชื่อว่ากระบวนการได้มาซึ่ง สว. ชุดใหม่จะมีความยุ่งเหยิงพอสมควร เพราะขณะนี้มีการวิพากษ์วิจารณ์ระเบียบและกติกาที่คณะกรรมการการเลือก (กกต.) กำหนดขึ้น รวมทั้งจะมีการจับผิดและร้องเรียน จึงน่าเป็นห่วงว่าการได้มาซึ่ง สว. ชุดใหม่ ล่าช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้ และอาจจะทำให้เกิดช่วงสุญญากาศ ระหว่าง สว.ชุดเก่า ที่ยังต้องปฏิบัติหน้าที่ต่อไปในระหว่างที่รอการได้มาซึ่ง สว.ชุดใหม่ แค่มากน้อยเพียงใด
ผศ.ดร.สุริยะใส กล่าวเพิ่มเติมว่า ตนห่วงใยการบริหารงานของรัฐบาล โดยเฉพาะข้าราชการประจำที่ต้องทำงานภายใต้การนำของผู้นำถึง 2-3 คน ไปพร้อม ๆ กัน ทั้งนี้ ตนไม่ปฏิเสธความรู้ความสามารถของ นายทักษิณ ชินวัตร แต่ต้องบริหารจัดการให้เป็น เช่นกรณีที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ จ.ภูเก็ต ติดตามการแก้ปัญหาจราจร ข้าราชการในพื้นที่ก็ได้รายงานถึงแผนงาน หลังจากนั้น นายทักษิณ ชินวัตร ก็ได้ลงพื้นที่ จ.ภูเก็ต เช่นกัน ข้าราชการประจำก็เกิดความสับสบ เพราะไม่รู้ว่าจะต้องเตรียมรายงานใคร แต่หากบริหารจัดการให้ดี ทำงานเป็นทีม เพื่อไม่ให้เกิดความสับสน เช่นเดียวกับการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ผ่านมา ที่เกิดปัญหาภายในของพรรคเพื่อไทย
ผศ.ดร.สุริยะใส กล่าวถึงการเลือก สว. ว่า ส่วนตัวมองว่าฝ่ายการเมืองทั้งทางตรงและทางอ้อม ไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยว ตนมองว่าคนในสังคมมีวุฒิภาวะและทราบดีว่าควรจะเลือกใคร เพระเป็นคนในพื้นที่ แต่การเคลื่อนไหวของฝ่ายการเมืองมากจนเกินไปอาจทำให้การเลือก สว. เกิดปัญหาถูกร้องเรียน จนอาจทำให้การเลือก สว. เป็นโมฆะ ตนเชื่อว่ากระบวนการเรียนรู้ของสังคมในช่วงเวลา 10 ปีที่ผ่านมา เพียงพอต่อที่ประชาชนจะใช้ดุลพินิจด้วยตัวเองว่าจะเลือก สว. แบบใด
ณัฐพล สงวนทรัพย์ ข่าว/เรียบเรียง
