นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวถึงกระแสข่าวที่ระบุว่าอาจมีการเสนอให้แก้ไขพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ธนาคารแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2485 ภายหลังจากที่นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้กล่าวถึงธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ว่าเป็นอุปสรรคในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ว่า พรรคประชาธิปัตย์ได้ติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด และหากมีการยื่นแก้ไขจริง พรรคฯ ไม่เห็นด้วยอย่างแน่นอน เพราะถือเป็นการลดความอิสระของ ธปท. และต้องถ่วงดุลฝ่ายการเมืองซึ่งเป็นผู้ใช้เงินให้อยู่ในหลักการที่ถูกต้องเพื่อให้สถานะทางการเงินของประเทศมีความมั่นคงปลอดภัย สอดคล้องกับหลักสากลที่กำหนดให้อำนาจของธนาคารกลางให้มีความอิสระ แยกการใช้อำนาจออกจากฝ่ายการเมืองอย่างชัดเจน
นายราเมศ กล่าวด้วยว่า รัฐบาลอาจไม่สบายใจต่อท่าทีของผู้ว่า ธปท. ที่ไม่เห็นด้วยกับโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งเป็นนโยบายหลักของรัฐบาลที่พยายามผลักดัน แต่ด้วยกฎหมายมีความเข้มแข็งในเรื่องการปลดผู้ว่า ธปท. รัฐบาลจึงไม่สามารถทำอะไรตามอำเภอใจได้ เพราะกฎหมายระบุไว้ชัดว่า นอกจากการพ้นจากตำแหน่งตามวาระตามแล้ว ผู้ว่าการพ้นจากตำแหน่งเมื่อ เสียชีวิต หรือ ลาออก หรือขาดคุณสมบัติ หรือมีลักษณะต้องห้าม หรือคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติให้ออกโดยคำแนะนำของรัฐมนตรี เพราะมีความประพฤติเสื่อมเสียอย่างร้ายแรงหรือทุจริตต่อหน้าที่ หรือ ครม. มีมติให้ออกโดยคำแนะนำของรัฐมนตรีหรือการเสนอของรัฐมนตรี โดยคำแนะนำของคณะกรรมการ ธปท. เพราะบกพร่องในหน้าที่อย่างร้ายแรง หรือหย่อนความสามารถโดยมติดังกล่าวต้องแสดงเหตุผลในการให้ออกอย่างชัดแจ้ง ดังนั้น การแสดงความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมาของผู้ว่า ธปท. ด้วยความสุจริตใจเพื่อประโยชน์ของบ้านเมือง เพื่อให้เห็นความคุ้มค่าของงบประมาณแผ่นดิน
ณัฐพล สงวนทรัพย์ ข่าว/เรียบเรียง