นายชัยชนะ เดชเดโช ประธานกรรมาธิการ(กมธ.)การตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร นำคณะกรรมาธิการฯ ลงพื้นที่ จ.กระบี่ รับฟังความคิดเห็นของผู้ประกอบการ นักท่องเที่ยว และร่วมสังเกตุการณ์การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ท่าเรือที่ให้บริการนักท่องเที่ยว อ.เมือง จ.กระบี่
นายชัยชนะ กล่าวว่า จังหวัดกระบี่เป็นจังหวัดที่มีรายได้จากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวมากเป็นลำดับที่ 4 ของประเทศไทย มีนักท่องเที่ยวเข้ามาปีละ 8 ล้านคน จึงต้องดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยวและต้องควบคุมให้นักท่องเที่ยวอยู่ภายใต้กฎระเบียบ กฎหมายของประเทศไทย และอีกประเด็นหนึ่งคือ เรื่องเรือนำเที่ยว ทุกลำต้องมีทะเบียน และผู้ขับเรือต้องมีใบอนุญาตขับเรือและที่สำคัญให้ตรวจหายาเสพติดในคนขับเรือ และพนักงานโรงแรมทุกคน นอกจากนี้ กรรมาธิการฯ ยังเสนอแนะให้ใช้แอปพลิเคชันติดตามนักท่องเที่ยวเหมือนเมื่อครั้งการระบาดของโรคโควิด-19 โดยแนะนำให้ทางจังหวัดกระบี่ประสานไปยังกระทรวงสาธารณสุข เพื่อติดตามนักท่องเที่ยวทุกคน ว่าเข้ามาพักที่ไหน อยู่ที่ไหน อย่างไร เพื่อเกิดความปลอดภัยและป้องกันเหตุอาชญากรรมข้ามชาติได้
ประธานคณะกรรมาธิการการตำรวจ กล่าวต่อว่า นอกจากประเด็นท่องเที่ยว ได้รับเรื่องจากผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ว่ามีสถานีตำรวจภูธร 3 แห่ง คือ สถานีตำรวจภูธรเหนือคลอง สถานีตำรวจภูธรคลองขนาน อ.เหนือคลอง และสถานีตำรวจภูธรเกาะพีพี อ.เมืองกระบี่ มีอายุการใช้งานเกิน 30 ปี และได้ยื่นเรื่องคำของบประมาณ ปี 68 ไปแล้ว แต่ที่เป็นปัญหาหลักๆ ของสถานีตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่คืออัตราพนักงานสอบสวนขาด จากอัตรากำลังพลของจังหวัดกระบี่ทั้งหมด 1,500 นาย แต่มีเพียง 1,120 นาย ขาดอยู่ 380 นาย ทำให้การทำคดีล่าช้า ส่งผลต่อการให้บริการประชาชน เบื้องต้นประเด็นดังกล่าวต้องนำเข้าเสนอต่อสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้รัฐบาลประสานงานไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้จัดกำลังพลมาให้ครบถ้วนตามอัตรากำลังต่อไป
อรพรรณ ขันทองคำ ข่าว/เรียบเรียง
