นายกันต์พงษ์ ประยูรศักดิ์ รองประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การคุ้มครองผู้บริโภค สภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วยนายบุญเลิศ แสงพันธุ์ กรรมาธิการและที่ปรึกษาคณะกมธ. รับหนังสือจากนายนิพนธ์ นูมหันต์ ประธานกรรมการนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรรป้อมปราการ อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ โดยขอให้คณะกมธ.พิจารณาแนวทางผ่อนปรนการเปิดบริการสระว่ายน้ำของหมู่บ้านไปพลางก่อน ภายหลังถูกสำนักงานเทศบาลตำบลแหลมฟ้าผ่า สั่งปิดสระว่ายน้ำ ด้วยเหตุผลไม่มีใบอนุญาตประกอบกิจการและหน้าโฉนดที่ดินระบุว่าพื้นที่ของสระว่ายน้ำเป็นสนามเด็กเล่นซึ่งไม่ตรงกับความเป็นจริง ทั้งนี้นายนิพนธ์ ระบุว่าหมู่บ้านป้อมปราการ มีสมาชิกทั้งสิ้น 492 ครัวเรือน ซึ่งบริษัท พัชรภูมิ จำกัด เป็นเจ้าของโครงการ สร้างและขายบ้านเมื่อปี พ.ศ. 2535 ซึ่งมีสาธารณูปโภค ประกอบด้วย สระว่ายน้ำ สนามเด็กเล่น และสวนสาธารณะและหลังจากจบโครงการเมื่อปี พ.ศ. 2540 ซึ่งขณะนั้นยังไม่มีกฎหมายการจัดตั้งนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรรเข้ามากำกับ จึงจัดตั้งเป็นชุมชนหมู่บ้านป้อมปราการ ต่อมาเจ้าของโครงการได้ส่งมอบสาธารณูปโภคและสาธารณะต่าง ๆ ให้กับคณะกรรมการชุมชนเป็นผู้ดูแลยกเว้นสระว่ายน้ำที่เจ้าของโครงการยังเป็นผู้ดูแลดำเนินกิจการด้วยตนเอง กระทั่งปี พ.ศ. 2566 ผู้อาศัยในโครงการฯ ได้ร่วมกันจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคลขึ้นตามกฎหมาย และบริษัทเจ้าของโครงการได้โอนกรรมสิทธิ์ทรัพย์สินส่วนกลาง ได้แก่ ที่ดินสาธารณะและสาธารณูปโภค ให้กับนิติบุคคล และได้ปรับปรุงซ่อมแซมสระว่ายน้ำ และเปิดให้บริการให้แก่คนในชุมชน สำหรับเป็นพื้นที่พักผ่อนให้เด็กและเยาวชนได้ฝึกว่ายน้ำ และผู้สูงอายุได้ใช้น้ำในการทำกายภาพบำบัด โดยหลังจากซ่อมแซมเสร็จและเปิดบริการได้เพียง 3 วัน พบว่าเมื่อวันที่ 18 เม.ย. ที่ผ่านมาเทศบาลตำบลแหลมฟ้าผ่า ได้สั่งปิดสระว่ายน้ำดังกล่าว ส่งผลให้นิติบุคคลได้รับความเดือดร้อนและต้องการเหตุผลที่ชัดเจนถึงสาเหตุการสั่งปิดสระว่ายน้ำในครั้งนี้ เนื่องจากตั้งแต่เริ่มก่อสร้างโครงการ ได้ระบุว่าชัดเจนว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นส่วนของการก่อสร้างสระว่ายน้ำตั้งแต่ต้น จึงร้องเรียนขอความเป็นธรรมมายังคณะกมธ. เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงหรือแนวทางการแก้ไขปัญหาร่วมกันกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป
ด้านนายบุญเลิศ กล่าวภายหลังรับหนังสือว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม หลังจากนี้คณะกมธ.จะนำเรื่องดังกล่าวเข้าพิจารณาในที่ประชุมกมธ.และเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าชี้แจงต่อไป ขณะที่นายกันต์พงษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่ากรณีดังกล่าวเห็นควรอย่างยิ่งที่จะให้มีการเยียวยาและชดเชยผู้ที่ได้รับผลกระทบอย่างเหมาะสม
ณัฐเดช เอียดปุ่ม /ข่าว /เรียบเรียง
