8 พ.ค.67 - ประชาชน จ.มุกดาหาร ร้อง กมธ.การที่ดินฯ และ กมธ.พลังงาน สภาผู้แทนราษฎร ขอคัดค้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานลม ในเขตป่าสงวนแห่งชาติดงบังอี่ หวั่นเกิดผลกระทบต่อประชาชนและสิ่งแวดล้อมในพื้นที่

image

        นายพูนศักดิ์ จันทร์จำปี ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การที่ดินทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วยนายศุภโชติ ไชยสัจ รองประธาน กมธ.การพลังงาน สภาผู้แทนราษฎร รับหนังสือจากนายโง้น นาโสก ตัวแทนประชาชนผู้ได้รับความเดือดร้อน เพื่อขอคัดค้านโครงการสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานลมในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าดงบังอี่ (ป่าสงวนภูยูง) พื้นที่ตำบลนาโสกและตำบลกุดแข้ อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร เนื่องจากประชาชนได้รับผลกระทบจากการอนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ดงบังอี่ แปลงที่ 1 โดยกรมป่าไม้ได้อนุญาตให้ บริษัท พีแอนด์พี วินด์ เอ็นเนอร์จี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด เข้าทำประโยชน์ภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าดงบังอี่ บริเวณดังกล่าว เพื่อดำเนินโครงการผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานลมเนื้อที่ 383 ไร่ 3 งาน 38 ตารางวา ตั้งแต่วันที่ 5 เมษายน 2567 จนถึงวันที่ 3 เมษายน 2597 นั้น ประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวมีความกังวลว่าจะได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างโรงงานไฟฟ้า อาทิ ปัญหาการเวนคืนที่ดิน ซึ่งเกี่ยวพันกับปัญหาพื้นที่ทับซ้อนที่ดินทำกินประชาชน แต่ทางราชการกลับไม่สามารถออกเอกสารสิทธิ์ให้ประชาชนได้ แต่กลับอนุญาตให้บริษัทเอกชนมาแสวงหาผลประโยชน์ในพื้นที่ดังกล่าว / ผลประโยชน์ที่ท้องถิ่นจะได้รับจากการชดเชยเยียวยา มีความคุ้มค่ากับผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม หรือไม่/ การดำเนินการก่อสร้างถนนเพื่อตัดผ่านภูเขาดังกล่าว ซึ่งบริษัทฯ อ้างว่าจะตัดถนนผ่านเขตพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ เพื่อลำเลียงวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานลมเข้าในพื้นที่จะสามารถเป็นไปได้ในทางปฏิบัติ หรือไม่ และจะก่อให้เกิดผลกระทบต่อพืชพรรณไม้หรือสัตว์ป่า หรือไม่ นอกจากนี้ พื้นที่ที่ได้รับอนุญาตให้ดำเนินการก่อสร้างยังเป็นพื้นที่ป่าต้นน้ำ (ห้วยกะหลอง) ซึ่งประชาชนในพื้นที่ได้ใช้ประโยชน์ในการอุปโภคบริโภคจะได้รับผลกระทบ หรือไม่ อย่างไร หากอนุญาตให้ดำเนินโครงการต่อไปได้ จะเกิดผลกระทบต่อการดำเนินวิถีชีวิตดั้งเดิมของชุมชน อย่างไรบ้าง ซึ่งต้องนำมาประกอบการพิจารณาอนุญาตดังกล่าวอย่างละเอียดถี่ถ้วนและรอบคอบอย่างที่สุด จึงขอให้ กมธ.เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าชี้แจงข้อมูลข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการดำเนินโครงการดังกล่าว เพื่อป้องกันไม่ให้ผลกระทบเกิดกับประชาชนและสิ่งแวดล้อมในพื้นที่
          ด้าน นายพูนศักดิ์ ประธาน กมธ.การที่ดินฯ กล่าวว่า กมธ.จะนำเข้าสู่การพิจารณาในที่ประชุม เพื่อตรวจสอบว่าการอนุญาตการใช้พื้นที่ป่าถูกต้องตามกรอบของกฎหมาย หรือไม่ และผลกระทบที่ประชาชนได้รับ จะมีการชดเชยเยียวยา อย่างไร รวมถึงมีขั้นตอนดำเนินการถูกต้องโปร่งใส หรือไม่ โดยจะเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าชี้แจงข้อเท็จจริงต่อไป
         ขณะที่ นายศุภโชค รองประธาน กมธ.การพลังงานฯ กล่าวว่า กมธ.จะดำเนินการตรวจสอบที่มาของโครงการ ซึ่งหากอ้างอิงจากผลการคัดเลือกของกิจการพลังงานปี 2566 พบว่า ปัจจุบันโครงการดังกล่าวได้ถูกชะลอการเซ็นสัญญาดำเนินโครงการ โดยอำนาจของศาลปกครอง หากมีการดำเนินการโครงการอยู่จะต้องตรวจสอบข้อเท็จจริง รวมทั้งตรวจสอบกระบวนการก่อสร้างว่าถูกต้องตามหลักที่ควรจะเป็น หรือไม่ ทั้งการประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม และระยะเวลาที่ใช้ในการก่อสร้าง ทั้งนี้ กมธ.ยินดีรับเรื่องดังกล่าวไว้พิจารณา เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง

อรุณี ตันศักดิ์ดา ข่าว /เรียบเรียง

ประมวลผลภาพ

วิดีโอ