นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน และหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะสมาชิกรัฐสภา อภิปรายคำแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อรัฐสภา ตามมาตรา 162 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ในวันนี้ (12 ก.ย.67) ว่า วาระ 3 ปีต่อไปจากนี้ของรัฐบาลชุดใหม่ ภายใต้การนำของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เปรียบเหมือนรัฐบาลเพื่อ 3 นาย คือ นายใหญ่ นายทุน และนายหน้า ที่มีแต่เจ๊ากับเจ๊ง โดยเห็นว่าประเทศไทยจะไม่มีอนาคตที่ดีขึ้น หากยังอยู่ในระบบการเมืองแบบนี้ เพราะรัฐบาลกำลังสยบยอมต่อกระบวนการนิติสงครามที่ทำลายหลักนิติธรรมและหลักนิติรัฐของประเทศไทยไปจนหมด พร้อมสะท้อนมุมมองต่อหลายนโยบายของรัฐบาล ภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทย ได้แก่ นโยบายดิจิทัลวอลเล็ต แจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ว่า ตอนหาเสียงเลือกตั้ง สส. เมื่อปี 2562 พรรคเพื่อไทย ได้ระบุไว้ว่า หากพรรคฯ ได้เป็นรัฐบาล จะแจกทันที แต่สิ่งที่เกิดขึ้น คือ การเลื่อนแล้วเลื่อนอีก จนถึงวันนี้ก็ยังไม่จ่าย ตามที่เคยระบุไว้ว่าจะแจกให้ผู้มีสิทธิ์พร้อมกันทุกคนเพื่อสร้างพายุหมุนทางด้านเศรษฐกิจ ผ่านระบบบล็อกเชน เพื่อความโปร่งใส ตรวจสอบได้ว่าสุดท้ายแล้วเงินจะหมุนไปเข้ากระเป๋าใคร แต่ล่าสุดรัฐบาลได้ปรับแผนมาเป็นการทยอยจ่ายเป็นเงินสดผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ไม่ได้จ่ายเป็นดิจิทัลวอลเล็ตทั้งหมด ตามที่รัฐบาลมุ่งหวังจะสร้างเป็นโครงสร้างพื้นฐานทางด้านดิจิทัล ทำให้ตอนนี้ตนกังวลว่าการแจกเงินดิจิทัลผ่านระบบบล็อกเชน จะยังอยู่ในนโยบายนี้หรือไม่ พร้อมตั้งคำถามถึงรัฐบาลว่านโยบายเรือธงอย่างนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต นโยบายเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ และนโยบายแลนด์บริดจ์ที่มีการใช้งบประมาณของรัฐในการเวนคืนที่ดินจำนวนมาก ว่าทำเพื่อประชาชนหรือเพื่อ 3 นาย ทั้งนายใหญ่ นายทุน และนายหน้า หรือไม่ และประชาชนอยู่ตรงจุดไหนของสมการการเมืองนี้
นายณัฐพงษ์ กล่าวเพิ่มเติมถึงนโยบายด้านการศึกษา โดยเห็นว่าปัจจุบัน ประเทศไทยยังตามไม่ทันโลก เพราะกำลังประสบกับปัญหาวิกฤตด้านการศึกษา การพัฒนาทักษะแรงงานทั้ง Re Skill และ Up Skill ยังไม่มีความชัดเจนถึงแพลตฟอร์มหรือระบบกลางรองรับ ส่วนนโยบายด้านการแข่งขันกับต่างประเทศ ขณะนี้ตนยังพบปัญหาสินค้านำเข้าล้นทะลัก ทำให้ SMEs และโรงงานของผู้ประกอบการไทยทยอยปิดตัว ด้านนโยบายการแข่งขันของอุตสาหกรรมแห่งอนาคต ตนมองว่าคำแถลงนโยบายของรัฐบาลยังขาดความชัดเจนและการจัดสรรงบประมาณที่เป็นรูปธรรม รวมถึงนโยบายด้านความท้าทายชีวิตประจำวันของประชาชน ทั้งปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ค่าแรงงานขั้นต่ำ ที่เคยเป็นเรื่องเร่งด่วนอยู่ในคำแถลงนโยบายของรัฐบาลชุดที่แล้ว แต่ตนกลับพบว่าไม่ปรากฏอยู่ในคำแถลงนโยบายของรัฐบาลชุดนี้ ด้านภัยพิบัติ ตนพบว่าผลผลิตทางการเกษตรช่วงต้นปี 2567 อยู่ในภาวะตกต่ำเนื่องจากได้รับผลกระทบจากทั้งภัยร้อนและภัยแล้ง และขณะนี้ในพื้นที่ภาคเหนือกำลังได้รับผลกระทบจากอุทกภัย ด้านสิ่งแวดล้อม ตนมองว่าหากรัฐบาลทำงานเป็น สามารถพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาสได้ด้วยการจัดทำแผนการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Adaptation Plan) เพื่อกระจายแหล่งน้ำในภาคชนบท ทั้งน้ำประปาที่มีคุณภาพและน้ำเพื่อการเกษตรไปให้ประชาชนในพื้นที่ พร้อมฝากให้รัฐบาล บรรจุการเร่งแก้ไขรัฐธรรมนูญไว้ในนโยบายเร่งด่วน ด้วย
นายณัฐพงษ์ กล่าวด้วยว่าสิ่งที่ตนอยากเห็นมากกว่าคำแถลงนโยบายของรัฐบาล คือเรื่องของรายละเอียดที่อยากให้ ครม.ทุกคน ได้ช่วยกันตอบข้ออภิปรายของสมาชิกรัฐสภา เพราะมองว่ายิ่งเป็นนโยบายเร่งด่วน 10 ข้อ รัฐบาลต้องรู้ลึก รู้จริง และพร้อมนำไปปฏิบัติทันที
คณรัตน์ ยินดีมิตร / ข่าว / เรียบเรียง