สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ร่วมกับ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา และมูลนิธิคอนราด อาเดนาวร์ ประเทศไทย จัดโครงการการมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นของทุกภาคส่วนต่อร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)บริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาด พ.ศ. .... : การจัดการปัญหามลพิษหมอกควันข้ามแคนและฝุ่นมลพิษ PM 2.5 ณ ห้องประชุม 607 อาคารรัฐสภา โดยมีนายนิติพล ผิวเหมาะ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(สส.)แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน เป็นประธานเปิดโครงการฯ พร้อมกล่าวว่า ประเด็นปัญหาที่ถูกหยิบยกขึ้นมาพูดถึงมากที่สุด คือ ปัญหามลพิษหมอกควันข้ามแดน และฝุ่นมลพิษ PM 2.5 ประชาชนโดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มเปราะบางต่างต้องการให้มีการออกนโยบายเร่งด่วนเพื่อบรรเทาผลกระทบในภาวะวิกฤติ เนื่องจากปัญหาดังกล่าวส่งผลกระทบต่อสุขภาพทั้งแบบเฉียบพลัน และเรื้อรัง ได้แก่ ระบบผิวหนัง ระบบทางเดินหายใจ และในระยะยาวทำให้เกิดปัญหาโรคทางเดินหายใจ เช่น ถุงลมโป่งพอง ตลอดจนโรคมะเร็งปอด อีกทั้งยังส่งผลต่อพัฒนาการและสติปัญญาของเด็ก และประเด็นสำคัญที่ทุกคนเห็นพ้องต้องกันและรอคอยมาเป็นระยะเวลายาวนาน คือ ขอให้สภาผ่านพระราชบัญญัติบริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาด ออกมาบังคับใช้โดยเร็ว เนื่องจากอีกไม่กี่เดือนจะเข้าสู่ฤดูฝุ่น
นายนิติพล กล่าวต่อว่า แม้ในปัจจุบันปัญหามลพิษหมอกควันข้ามแดน จะมีการบริหารจัดการโดยอาศัยกลไกความร่วมมือระหว่างประเทศผ่านข้อตกลงอาเซียนเรื่องมลพิษจากหมอกควันข้ามแดน แผนปฏิบัติการร่วมในการป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควันข้ามแดน ระหว่างประเทศไทย - สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว - สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ภายใต้ยุทธศาสตร์ฟ้าใส การสร้างความร่วมมือบริเวณชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน และช่องทางอื่นๆ แต่ร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ ควรมีการวางแผนแก้ปัญหาให้ครอบคลุมทุกมิติและรอบด้าน มีมาตรการลงโทษวินัยการเงิน การคลัง เก็บภาษีบาปจากผู้ที่ทำให้เกิดมลพิษ เพื่อแก้ไขปัญหาทั้งระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว
ด้านรองศาสตราจารย์คนึงนิจ ศรีบัวเอี่ยม คณะกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.บริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาด พ.ศ. …. และประธานอนุ กมธ.พิจารณาความผิดทางกฎหมายและการบังคับใช้กฎหมายของร่างพ.ร.บ.บริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาด พ.ศ. …. กล่าวปาฐกถาพิเศษ หัวข้อ พ.ร.บ.อากาศสะอาด ชีวิตคนไทยจะดีขึ้นอย่างไร โดยสาระสำคัญได้พูดถึงกระบวนการยกร่างกฎหมายว่า หน่วยงานผู้รับผิดชอบ คือ กรมควบคุมมลพิษ ต้องกำหนดเจตนารมณ์ของกฎหมายที่ชัดเจนเพื่อนำไปสู่เป้าหมายที่ตรงกัน และให้มีการจัดการอากาศสะอาดร่วมกันระหว่างภาครัฐกับภาคประชาชน อีกทั้งยังควรส่งเสริมการจัดการอากาศสะอาดที่ดีให้กับประชาชนด้วย
ทั้งนี้ ภายในงานได้มีการแลกเปลี่ยน แสดงความคิดเห็นต่อร่างพ.ร.บ.ดังกล่าว เพื่อให้ประเด็นการจัดการปัญหามลพิษหมอกควันข้ามแดนและฝุ่นมลพิษ PM 2.5 สามารถแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด และสามารถปรับปรุงคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดีขึ้นได้อย่างยั่งยืน โดยผลการระดมความคิดเห็นครั้งนี้ จะมีการรวบรวมและเพื่อเป็นข้อมูลในการพิจารณาของคณะ กมธ.ต่อไป
อรพรรณ ขันทองคำ ข่าว/เรียบเรียง