12 ก.ย.67 - สว.รมย์สิทธิ์ เรียกร้องรัฐบาล ยกระดับความสำคัญการแก้ปัญหายาเสพติดเป็นวาระเร่งด่วนที่สุด พร้อมขอนายกรัฐมนตรี นำทีมเร่งปฏิรูปการทำงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หวังป้องกันลูกหลานไทย ตกเป็นทาสยาเสพติด และป่วยวิกลจริต

image

   พลตำรวจตรี รมย์สิทธิ์ วีริยาสรร สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ในฐานะสมาชิกรัฐสภา อภิปรายคำแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อรัฐสภา ตามมาตรา 162 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ในวันนี้ (12 ก.ย.67) โดยตนมีข้อสังเกตสำคัญเกี่ยวกับนโยบายด้านการแก้ปัญหายาเสพติดของรัฐบาล ว่าที่ผ่านมา ตนพบว่าทุกรัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับปัญหายาเสพติดมาอย่างต่อเนื่องและถือว่าเป็นวาระสำคัญของชาติ มีแผนงานโครงการจำนวนมาก มีการจัดตั้งหน่วยงานทั้งระดับประเทศ ระดับจังหวัด และระดับภูมิภาค มีการทุ่มเทงบประมาณจำนวนมหาศาลเพื่อแก้ปัญหายาเสพติด แต่ที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าปัญหายาเสพติดกลับทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น โดยตนต้องการชี้ให้เห็นว่ามีดัชนีบ่งชี้อะไรบ้างที่สะท้อนให้เห็นว่าการแก้ปัญหายาเสพติดที่ผ่านมานั้นอยู่ในภาวะล้มเหลว ได้แก่ ประการแรก สถานการณ์จำนวนผู้เสพยาเสพติดมีมากถึง 5.2 ล้านคน ซึ่งจากข้อมูลสถิติพบว่าทุก 1 ปี จะมีคนไทยเสพฯ เพิ่มขึ้น 1 ล้านคน ถือเป็นข้อมูลที่น่าเป็นห่วงกังวลมาก เพราะข้อมูลข้างต้นเป็นเพียงข้อมูลในระบบเท่านั้น แต่ข้อมูลนอกระบบมีมากกว่านี้อีกหลายเท่าตัว และที่สำคัญ ยังพบข้อมูลในระบบอีกว่าผู้เสพฯ ที่มีอาการทางจิตแล้ว มีมากถึง 1.2 ล้านคน ซึ่งจากข้อมูลสถิติจะพบว่ามีจำนวนเพิ่มขึ้น 4 แสนคนต่อปี จนนำไปสู่การก่อเหตุสะเทือนขวัญรายวันตามที่ปรากฏเป็นข่าวตามสื่อต่าง ๆ 

   พลตำรวจตรี รมย์สิทธิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่าจากข้อมูล ณ วันที่ 1 ก.ย.67 พบผู้ต้องขังในเรือนจำทั่วประเทศที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ประมาณ 220,574 คน คิดเป็น 73.15% ของจำนวนผู้ต้องขังทั้งประเทศ โดยตนเห็นว่าในขณะนี้ลูกหลานของคนไทยอยู่ในภาวะที่เสี่ยงอันตรายมากจากการตกเป็นทาสของยาเสพติด ปีละประมาณ 1 - 2 ล้านคน ซึ่งจากข้อมูลดังกล่าวตนมองว่าไม่ใช่สถานการณ์ปกติ เปรียบเหมือนอยู่ในสถานการณ์สงครามทำลายล้างเยาวชนไทยและประเทศไทย ด้วย เพราะฉะนั้น การแก้ปัญหายาเสพติด จึงไม่ใช่นโยบายเร่งด่วนธรรมดา แต่เป็นวาระเร่งด่วนที่สุดที่รัฐบาลจะต้องให้ความสำคัญ โดยสิ่งที่ตนเห็นว่ารัฐบาลจะต้องเร่งทำทันทีในขณะนี้ คือ นายกรัฐมนตรี และ ครม. จะต้องปฏิรูปการทำงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมสร้างความเข้าใจร่วมกัน เพื่อทำให้ลูกหลานของคนไทยไม่ต้องตกเป็นทาสยาเสพติดจำนวนมากเหมือนในปัจจุบัน และทำให้ลูกหลานของคนไทยไม่ต้องอยู่ในสภาพอาการวิกลจริตด้วย 

 

คณรัตน์ ยินดีมิตร / ข่าว / เรียบเรียง

ประมวลผลภาพ

วิดีโอ