นายคัมภีร์ ดิษฐากรณ์ โฆษกประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้รับมอบหมายจากนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นผู้แทนรับการยื่นเสนอร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ..) พุทธศักราช .... จาก นายสุรสีห์ ลานนท์ ประธานสภาประชาชน และคณะ เพื่อขอปรับปรุงกฎหมายสูงสุดของประเทศ ให้สอดคล้องกับยุคสมัย และยึดโยงกับเจตนารมณ์ของประชาชนอย่างแท้จริง
นายสุรสีห์ กล่าวว่า รัฐธรรมนูญถือเป็นกฎหมายสูงสุดของประเทศ ที่วางระเบียบการปกครอง กำหนดโครงสร้าง อำนาจ หน้าที่ องค์กรนิติบัญญัติ บริหาร และตุลาการ ประชาชนทุกคนจะต้องเกี่ยวข้องและผูกพันไปตลอด มิอาจหลีกเลี่ยงได้ ดังนั้นรัฐธรรมนูญที่ดีจะต้องมีสาระสําคัญในการพัฒนาประเทศในทุกมิติ ทั้งด้านการเมือง การปกครอง เศรษฐกิจ สังคม ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วัฒนธรรม จารีตและประเพณีของชาติ ที่สําคัญประชาชนต้องมีส่วนร่วมเพื่อรัฐธรรมนูญที่มีคุณภาพ เป็นที่ยอมรับ ขณะเดียวกันรัฐธรรมนูญฉบับปี 60 ได้ประกาศและมีผลใช้บังคับมาระยะหนึ่งแล้ว แต่หลายมาตราไม่สอดคล้องกับหลักประชาธิปไตย ภาคประชาชนจึงเสนอให้แก้ไขเพิ่มเติมในประเด็นต่างๆ อาทิ การถอดถอนเจ้าหน้าที่รัฐที่ทุจริตประพฤติมิชอบให้เป็นหน้าที่ของประชาชน ไม่ใช่เพียงสิทธิเท่านั้น ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(สส.) ไม่สังกัดพรรคก็ได้ โดยสามารถสมัครในนามอิสระได้ การกำหนดให้สมาชิกวุฒิสภา(สว.)ต้องมาจากการเลือกตั้งร้อยละ100 การเสนอกฎหมายไม่ต้องผ่านนายกรัฐมนตรี อีกทั้งยังให้สิทธิประชาชนถอดถอนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในเขตเลือกตั้งของตนได้ การตั้งองค์กรภาคประชาชนตรวจสอบการทํางานของรัฐบาล กำหนดให้การแต่งตั้งและถอดถอนองค์กรอิสระ ต้องให้รัฐสภาพิจารณา พร้อมทั้งยกเลิกศาลรัฐธรรมนูญและโอนภารกิจให้แผนกคดีพิเศษในศาลฎีกา จึงขอเชิญชวนประชาชนทุกสาขาอาชีพร่วมสร้างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนและเพื่อประชาชน พร้อมขอขอบคุณเจ้าหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรที่คอยให้ คำแนะนำเกี่ยวกับการเสนอกฎหมายด้วยดีตลอดมา
ด้านนายคัมภีร์ กล่าวภายหลังการรับยื่นเสนอร่างรัฐธรรมนูญว่า การยื่นร่างครั้งนี้ถือเป็นนิมิตหมายที่ดี และเป็นอีกก้าวหนึ่งของการมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชน โดยฝ่ายรัฐบาลมีแผนจะเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเข้าสู่การพิจารณาในช่วงเปิดสมัยประชุมรัฐสภา ซึ่งคาดว่าจะมีการนำร่างของภาคประชาชนเข้าร่วมพิจารณาด้วย
อรพรรณ ขันทองคำ ข่าว/เรียบเรียง
