17 พ.ย.68 – กมธ.การแรงงาน วุฒิสภา รับหนังสือคัดค้านร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน 3 ฉบับ เสนอโดย 3 สส.พรรคประชาชน จาก 16 สภาองค์การนายจ้าง หวั่นกระทบต้นทุนและการจ้างงานของสถานประกอบการ

image

        นายวิรัตน์ รักษ์พันธ์ ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การแรงงาน วุฒิสภา พร้อม พันตำรวจโท สุริยา บาราสัน ประธานคณะอนุ กมธ.ด้านการสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ใน กมธ.การแรงงาน วุฒิสภา และคณะ รับหนังสือคัดค้านร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) คุ้มครองแรงงาน (ฉบับที่..) พ.ศ. .... จำนวน 3 ฉบับ จาก ดร.เนาวรัตน์ ทรงสวัสดิ์ชัย ประธานสภาองค์การนายจ้างผู้ประกอบการค้าและอุตสาหกรรมไทย (อีคอนไทย) และคณะสภาองค์การนายจ้าง 16 องค์การ เนื่องจากเห็นว่าร่างกฎหมายทั้ง 3 ฉบับ มีข้อกฎหมายที่กระทบต่อสถานประกอบกิจการ 

              โดย ดร.เนาวรัตน์ กล่าวว่า ร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน ฉบับแรก เสนอโดย นายจรัส คุ้มไข่น้ำ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) จังหวัดชลบุรี พรรคประชาชน (ปชน.) และคณะ ที่มีสาระสำคัญแก้ไขเพิ่มเติมให้ลดชั่วโมงการทำงานของลูกจ้าง จากเดิมทำงาน 48 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ปรับลดลงเป็น 40 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ เนื่องจากทางผู้ประกอบการส่วนใหญ่ เห็นว่าจะส่งผลกระทบให้เกิดปัญหาต่อต้นทุนแรงงานอย่างแน่นอน และกระทบต่อลูกจ้างด้วย เพราะเมื่อมีชั่วโมงการทำงานที่น้อยลง จะทำให้มีรายได้ลดลง รวมถึงเรื่องการแก้ไขเพิ่มวันหยุดประจำสัปดาห์จาก 1 วัน เป็น 2 วัน และเรื่องการแก้ไขเพิ่มเติมสิทธิการลาพักผ่อนประจำปีของลูกจ้าง จากเดิม 6 วัน เป็น 10 วันต่อปี ทางผู้ประกอบการเห็นว่าจะทำให้ประสิทธิภาพการทำงานลดลง และสุดท้าย ผู้ประกอบการอาจหันไปใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ทำงานแทนแรงงาน ซึ่งจะทำให้แรงงานต้องตกงานเป็นจำนวนมาก ส่วนร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน ฉบับที่สอง เสนอโดย น.ส.วรรณวิภา ไม้สน สส.บัญชีรายชื่อ ปชน. ที่มีการแก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องการลา เนื่องจากมีประจำเดือน เดือนละ 3 วันโดยไม่นับรวมกับวันลาป่วยประจำปี 30 วันที่มีอยู่แล้ว ทางผู้ประกอบการเห็นว่าเป็นการทำให้ต้นทุนของผู้ประกอบการสูงขึ้น รวมถึงเรื่องมุมนมแม่ ซึ่งโรงงานโดยทั่วไปจะมีไว้รองรับอยู่แล้ว แต่หากกำหนดขนาดห้องและอุปกรณ์ด้วย จะเป็นข้อจำกัดต่อผู้ประกอบการรายเล็กที่ไม่สามารถดำเนินการได้ 

นอกจากนี้ ร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน ฉบับที่สาม เสนอโดย นายเซีย จำปาทอง สส.บัญชีรายชื่อ ปชน. ซึ่งมีการกำหนดการจ้างงานเป็นรายเดือนทั้งหมดนั้น เห็นว่าเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนในการสัญญาจ้างมากเกินไป เพราะแต่ละอุตสาหกรรมมีการใช้แรงงานที่แตกต่างกัน ส่วนเรื่องการจ่ายค่าจ้างขั้นต่ำ ควรให้เป็นไปตามที่กฎหมายแรงงานกำหนดว่าต้องพิจารณาเรื่องเงินเฟ้อ ความสามารถในการจ่าย เศรษฐกิจ และค่าครองชีพ ประกอบกัน รวมถึงการขึ้นค่าแรงให้กับแรงงานฝีมือ ควรให้คณะกรรมการไตรภาคีทั้งจากส่วนกลาง กับคณะกรรมการไตรภาคีระดับจังหวัด ร่วมกันพิจารณา 

       ด้าน ประธาน กมธ.การแรงงาน วุฒิสภา กล่าวภายหลังรับหนังสือ ว่า ตามที่สภาผู้แทนราษฎร ได้รับหลักการร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน พร้อมตั้ง กมธ.วิสามัญพิจารณาร่างฯ นั้น ขณะนี้ในส่วนของวุฒิสภา ได้มอบหมายให้ กมธ.การแรงงาน วุฒิสภา พิจารณาศึกษาคู่ขนานกับสภาผู้แทนราษฎร โดยหนังสือที่มายื่นคัดค้านร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน 3 ฉบับดังกล่าว ตนจะส่งให้คณะอนุ กมธ.ด้านการสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ใน กมธ.การแรงงาน วุฒิสภา พิจารณาศึกษาข้อมูลในเบื้องต้น ก่อนนำข้อมูลมาพิจารณาในที่ประชุม กมธ. พร้อมจะเชิญผู้แทน 16 สภาองค์การนายจ้างมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมต่อไป 

 

คณรัตน์ ยินดีมิตร / ข่าว / เรียบเรียง

ประมวลผลภาพ

วิดีโอ