21 พ.ค 67 - คณะกมธ.การพัฒนาการเมืองฯ สภาผู้แทนราษฎร จัดสัมมนารับฟังความเห็นการยกร่างแก้ไขกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ปี 60 หวังสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีให้พรรคการเมืองไทย ชูเงื่อนไขพรรคการเมืองเกิดง่าย อยู่ได้ ตายยาก 

image

           นายพริษฐ์ วัชรสินธุ ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน สภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานเปิดการสัมมนา เรื่องการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 ให้ยึดโยงกับประชาชน ซึ่งจัดโดยคณะกมธ.การพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน สภาผู้แทนราษฎร โดยนายพริษฐ์ กล่าวถึงที่มาของจัดสัมมนาครั้งนี้ ว่าคณะ กมธ.มีภารกิจสำคัญ คือการทำให้สถาบันพรรคการเมืองยึดโยงกับประชาชน โดยพรรคการเมืองต้องมีความหลากหลายและเข้มแข็ง จึงจำเป็นต้องปรับแก้ไขกฎหมายเพื่อสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีให้กับพรรคการเมืองไทย คณะ กมธ.จึงตั้งคณะอนุกมธ.ขึ้นมาทำหน้าที่พิจารณาศึกษาและจัดทำข้อเสนอในการส่งเสริมสถาบันพรรคการเมืองให้ยึดโยงกับประชาชน พร้อมกับยกร่างแก้ไข พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ด้วยการเปิดรับฟังความเห็นจากหลายภาคส่วน ประกอบด้วยผู้แทนทั้งฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้าน นักวิชาการ และคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) คณะอนุ กมธ.ได้เข้าพบพรรคการเมืองต่าง ๆ เพื่อรวบรวมประเด็นปัญหาของแต่ละพรรคการเมือง นำไปสู่การยกร่างกฎหมายและจัดทำเป็นรายงานนำเสนอต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งคาดหวังว่าร่างกฎหมายฉบับดังกล่าวจะเป็นฐานข้อมูลให้กับ สส.แต่ละพรรคการเมืองนำไปปรับปรุงแก้ไข เพื่อยื่นเสนอต่อสภาผู้แทนราษฎรในอนาคต และเป็นไปตามที่คณะ กมธ. มุ่งหวัง ในการแสวงหาจุดร่วมของแต่ละพรรคการเมืองแม้มีอุดมการณ์แตกต่างกัน

            ด้าน นายพงศธร ศรเพชรนรินทร์ ประธานอนุ กมธ.พิจารณาศึกษาและจัดทำข้อเสนอในการส่งเสริมสถาบันพรรคการเมืองให้ยึดโยงกับประชาชน กล่าวว่าอนุ กมธ.ได้พิจารณาลดข้อจำกัดที่ปรากฏอยู่ในกฎหมายฉบับเดิมให้เป็นไปตามเจตจำนงของประชาชนภายใต้ 3 เงื่อนไขหลัก ได้แก่ พรรคการเมืองจะต้องเกิดง่าย อยู่ได้ และตายยาก ซึ่งสาระสำคัญของพรรคการเมืองเกิดง่าย ได้เสนอปรับแก้ไขในประเด็นการลดจำนวนสมาชิกที่นำไปสู่การจดทะเบียนจัดตั้งพรรคการเมืองให้น้อยลงเหลือเพียง 250 คน ปรับคุณสมบัติผู้จัดตั้งจากอายุ 20 ปี เป็นอายุ 18 ปี และทุนประเดิมพรรคการเมืองจาก 1 ล้านบาท เหลือเพียง 2.5 แสนบาท ส่วนเรื่องเอกสารและหลักฐานแก้ไขให้สามารถใช้ช่องทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ได้ สำหรับสาระสำคัญของพรรคการเมืองอยู่ได้ อาทิ ไม่บังคับจำนวนสมาชิกและจำนวนสาขาพรรคการเมือง ยกเลิกตัวแทนพรรคประจำจังหวัดและปรับให้การตั้งสาขาพรรคจัดทำได้ง่ายขึ้น และยกเลิกการออกเสียงแบบไพมารี่ให้การคัดเลือก สส. อยู่ในข้อบังคับของพรรค ส่วนสาระสำคัญของพรรคการเมืองตายยาก อาทิ การแก้ไขโทษยุบพรรคให้เหลือเฉพาะการกระทำล้มล้างการปกครอง และยกเลิกโทษตัดสิทธิเลือกตั้งทั้งหมด

 

ณัฐเดช เอียดปุ่ม /ข่าว /เรียบเรียง

ประมวลผลภาพ

วิดีโอ