7 มิ.ย. 66 - ปธ.กมธ.พัฒนาการเมืองฯ วุฒิสภา เผยตั้งคณะทำงานตรวจสอบปมถือหุ้นสื่อของหัวหน้าพรรคก้าวไกลแล้ว ขอ กกต.เร่งรับรอง ส.ส. ก่อนส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยชี้ขาด ก่อนวันโหวตนายกฯ ป้องกันเกิดปัญหา

image

        นายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกวุฒิสภา ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ(กมธ.)การพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมาธิการฯ เพื่อติดตามเรื่องร้องเรียนกรณีการถือหุ้นไอทีวีของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค รวมถึงประเด็นการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งเกี่ยวกับการครอบงำพรรคการเมือง โดย กมธ.เห็นว่าเรื่องดังกล่าวเป็นประเด็นสำคัญและยังมีการไปยื่นเรื่องร้องเรียนต่อสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) จึงได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว และจะส่งเรื่องไปยัง กกต.ให้รับทราบ เพื่อเร่งหาข้อยุติให้ชัดเจนโดยเร็ว โดยเฉพาะประเด็นคุณสมบัติของหัวหน้าพรรคก้าวไกล เพื่อแก้ปัญหาอื่นๆ ที่จะตามมา โดย กมธ.จะมีหนังสือแจ้งไปยัง กกต.ให้เร่งรัดตรวจสอบข้อร้องเรียนดังกล่าวต่อไป  
        ส่วนการพิจารณากรณีการถือหุ้นของนายพิธา ทางคณะกรรมาธิการฯ เห็นว่าเรื่องนี้ เป็นเรื่องที่มีข้อเท็จจริง มีหลักฐาน รวมถึงตามข้อกฎหมายและข้อบังคับของพรรคก้าวไกล มีมูลที่จะเห็นได้ว่า นายพิธา ขาดคุณสมบัติ ตั้งแต่สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. และหากขาดคุณสมบัติ ก็จะมีผลต่อการรับรองผู้สมัคร ส.ส. ในพรรคด้วย จึงอยากให้ กกต. เร่งรัดในการรับรอง ส.ส. แล้วรวบรวมหลักฐาน เสนอเรื่องดังกล่าวให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยชี้ขาด เพื่อให้มีความชัดเจน ก่อนจะถึงวันลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี เพราะอย่างน้อยที่สุด เมื่อศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยชี้ขาดแล้วก็จะเป็นที่ยอมรับของสังคมส่วนใหญ่ แต่หากรอไปจนถึงวันลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี ไม่ว่าวุฒิสภาจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยอย่างไร อาจจะนำไปสู่การเกิดความไม่สงบเรียบร้อยในสังคมได้ จึงอยากเร่งรัด กกต.รวบรวมหลักฐานวินิจฉัย และส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยต่อไป 
       สำหรับกรณีที่นายพิธา ระบุว่าได้โอนหุ้นไปแล้วนั้น นายเสรี มองว่า ไม่ว่าจะขายหรือโอนหุ้นสื่อในขณะนี้ ก็ไม่ทำให้ข้อเท็จจริงเปลี่ยนแปลง และไม่มีผลใดๆ เนื่องจากคุณสมบัติของผู้ที่ถูกเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีเกิดขึ้นตั้งแต่มีการเสนอชื่อในบัญชีพรรคการเมืองที่ส่งไปยัง กกต. ไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้น ดังนั้นหากถือหุ้นตั้งแต่ถูกเสนอชื่อในบัญชีพรรคการเมืองตั้งแต่แรก ก็เท่ากับมีผลทางกฎหมายแล้วว่าไม่มีคุณสมบัติ การโอนหุ้นออกนั้นจึงไม่ได้มีผลใดๆ 

อรพรรณ ขันทองคำ ข่าว/เรียบเรียง

ประมวลผลภาพ

วิดีโอ