ประธาน กมธ.อุตสาหกรรม ยกเหตุไฟไหม้กากเคมีที่ระยองเป็นบทเรียน จี้รัฐบาลเร่งสำรวจทั่วประเทศป้องกันเกิดเหตุซ้ำ

        นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ ประธาน (กมธ.) กรรมาธิการอุตสาหกรรม สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยถึงกรณีที่ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ที่เกิดเหตุไฟไหม้โกดังเก็บกากสารเคมีอุตสาหกรรม บริษัท วิน โพรเสส จำกัด ในอำเภอบ้านค่าย จังหวัดระยองเมื่อวันที่ 27 เม. ย. 67 ว่าถือว่าเป็นเรื่องดีที่นายกรัฐมนตรีได้ไปเห็นสภาพปัญหาจริงที่เกิดขึ้น เรื่องกากสารเคมีอุตสาหกรรมเป็นปัญหาใหญ่และกระทบกับประชาชนเป็นจำนวนมาก นายกรัฐมนตรีได้ทราบแล้วว่าปัญหานี้ไม่ได้เกิดเฉพาะที่จังหวัดระยอง และหากไม่มีการบริหารจัดการที่ดี อาจจะเกิดซ้ำขึ้นได้อีก จึงถือเป็นโอกาสดีที่นายกรัฐมนตรีจะได้กำชับหน่วยงานรัฐได้เร่งสำรวจโรงงานประเภทนี้ทั้งหมดทั่วประเทศ และเข้าไปบริหารจัดการ โดยเฉพาะสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการแก้ปัญหาในระยะยาว ที่จะต้องมีการแก้ไขอย่างจริงจัง เพราะที่ผ่านมาพบว่ามีปัญหาเรื่องการกำกับดูแลผู้ประกอบการ กรณีการที่ประกอบกิจการรับกำจัดกากของเสียจากอุตสาหกรรมไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ถือเป็นเรื่องที่หน่วยงานของภาครัฐ ต้องดำเนินการจริงจัง ไม่ปล่อยให้เกิดความหย่อนยานในการบังคับใช้กฎหมาย การรับสินบน การทุจริตคอร์รัปชัน นายกรัฐมนตรีจะต้องเร่งจัดการ เพราะจะเกิดเป็นปัญหาในระยะยาวได้

        ประธาน กมธ.อุตสาหกรรม กล่าวด้วยว่าสิ่งที่สำคัญสำหรับกรณีที่จังหวัดระยอง นายกรัฐมนตรีต้องเร่งเยียวยาให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะเรื่องสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ จากควันพิษ สารพิษ เพราะเข้าใจว่าการแก้ปัญหาในพื้นที่ขณะนี้ยังไม่ดีเท่าที่ควร สะท้อนได้จากการที่ประชาชนยังออกมาร้องเรียนถึงความล่าช้าของการจัดการปัญหาจากเจ้าหน้าที่ของกระทรวงอุตสาหกรรม และจังหวัดระยอง นายกรัฐมนตรีต้องกวดขันหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลแก้ไขให้กับประชาชนอย่างเร่งด่วน และต้องไม่ให้เกิดปัญหาลักษณะดังกล่าวเกิดขึ้นในพื้นที่อื่นอีก เพราะถือว่าที่จังหวัดระยองเป็นบทเรียนที่สำคัญที่ผู้ประกอบการกำจัดกากสารเคมีอุตสาหกรรมแล้วทำให้เกิดเหตุไฟไหม้ จะด้วยตั้งใจ หรือไม่ตั้งใจก็ตาม  รัฐบาลต้องมีมาตรการการรองรับไม่ให้เกิดเหตุการณ์ขึ้นอีก รวมถึงต้องเร่งดำเนินการกับกากสารเคมีที่เหลืออยู่ นอกจากนี้ ต้องสอบสวนหาสาเหตุของการเกิดเหตุไฟไหม้อย่างจริงจัง

ลักขณา เทียกทอง ข่าว/เรียบเรียง