30 เม.ย.67 - สส.ร่มธรรม พรรคประชาธิปัตย์ เรียกร้องรัฐ ให้ความสำคัญการวางแผนเตรียมพร้อมรับมือภัยสภาพภูมิอากาศ - ฝนทิ้งช่วง - ภัยแล้ง - ขาดแคลนน้ำ แนะตั้งวอร์รูมรองรับสถานการณ์ ชี้ปัญหาแหล่งน้ำ ต้องบริหารจัดการน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการประชาชน หวังเห็นผลสัมฤทธิ์เป็นรูปธรรม 

image

   นายร่มธรรม ขำนุรักษ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) จังหวัดพัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงปัญหาหลายพื้นที่ทั่วประเทศที่กำลังเผชิญปัญหาความร้อน ฝนทิ้งช่วง ภัยแล้ง ขาดแคลนน้ำ ทั้งน้ำอุปโภค บริโภค และน้ำเพื่อการเกษตร ทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนในหลายพื้นที่ ว่า สิ่งที่น่าเศร้าใจคือเราไม่ได้เห็นความใส่ใจปัญหานี้จากรัฐบาลหรือคณะรัฐมนตรี (ครม.) เท่าที่ควร แม้จะทราบกันตั้งแต่ปีที่แล้วว่าปีนี้เราจะเผชิญเอลนีโญและภัยแล้ง เพราะสิ่งที่เราเห็นคือข่าวการปรับ ครม. การวิ่งเต้น ที่ไม่ได้เกิดประโยชน์ต่อประชาชน มีแต่ประโยชน์พวกพ้อง และข่าวการแถลงเรื่องดิจิทัลวอลเล็ต ที่ไม่มีความชัดเจน ทำให้เกิดความกังวลตามมามากมาย ซึ่งเรื่องเหล่านี้สะท้อนว่าที่ผ่านมารัฐบาลทำงานเรื่องต่าง ๆ แบบฉาบฉวย แบบผิวเผิน ทำแต่เรื่องที่จับต้องไม่ได้ แต่ไม่สนใจที่จะแก้ไขปัญหาสังคม ความเป็นอยู่ ความเดือดร้อน และสิ่งแวดล้อมแม้แต่น้อย

   นายร่มธรรม กล่าวเพิ่มเติมว่า ประเด็นสำคัญในเรื่องนี้ คือ รัฐบาลยังไม่มีวอร์รูมเพื่อประเมินและเตรียมรับมือสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดเลย ซึ่งข้อมูลล่าสุดจากกรมอุตุนิยมวิทยา ระบุว่าขอให้อดทนไปก่อน ฝนจะมาช้าแค่สองสัปดาห์ คือสิ้นเดือนพฤษภาคมนี้ ฝนจะมาแล้ว อดทนอีกสักหน่อย แต่ถ้าฝนไม่มา จะทำอย่างไร เพราะมีข้อมูลจากนักวิชาการที่เชี่ยวชาญด้านสภาพภูมิอากาศอีกเช่นกันที่บอกว่า ถึงแม้ไทยจะพ้นจากปรากฏการณ์เอลนีโญในช่วงนั้นก็จริง แต่ไม่ได้หมายความว่าฝนจะมาทันที เพราะเกี่ยวกับอุณหภูมิของน้ำทะเลที่เปลี่ยนไปด้วย กว่าฝนจะมาอาจเป็นไตรมาส 4 หรือ ต้นเดือนตุลาคม พร้อม ๆ กับเงินดิจิทัลของรัฐบาล พอดี หากไม่เลื่อนแล้วเลื่อนอีกเหมือนเช่นเคย ทั้งนี้ กว่าฝนจะมาปลายเดือนกันยายนหรือต้นตุลาคม นี่คือฉากทัศน์เลวร้ายที่สุดที่อาจเกิดขึ้นได้ ผลกระทบลากยาวและรุนแรงแน่นอน แต่เรายังแทบไม่เห็นรัฐบาลตื่นตัว สื่อสารหรือมีแผนรับมือจริงจัง แต่อย่างใด ราวกับว่าเอาเข้าจริง เป้าหมายรัฐบาลนี้ทำแค่ให้นายทุนใหญ่ได้ประโยชน์จากโครงการเงินดิจิทัลก็พอใจแล้ว เรื่องอื่นจะเป็นยังไงก็ไม่สนใจ ไม่ใช่เรื่องที่รัฐบาลต้องใส่ใจ

   นายร่มธรรม กล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า ในอนาคตข้างหน้าข้อมูลทางวิทยาศาสตร์จำนวนมากชี้ให้เห็นว่าภาวะโลกร้อน สภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง ภัยแล้ง สภาพอากาศสุดขั้ว จะรุนแรงยิ่งกว่านี้ และประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่จะได้รับผลกระทบมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เพราะฉะนั้น ภาครัฐต้องให้ความสำคัญ ต้องวางแผนเตรียมพร้อมรับมือกับภัยของสภาพภูมิอากาศ โดยเฉพาะเรื่องแหล่งน้ำที่ต้องพัฒนากระจายไปทุก ๆ พื้นที่ กักเก็บและบริหารจัดการน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน ความร้อน ภัยแล้ง และเอลนีโญ ที่เกิดขึ้นขณะนี้ได้สร้างความเดือดร้อนอย่างมากต่อประชาชน และจะส่งผลกระทบมากขึ้นในอนาคต ตนขอให้นายกรัฐมนตรี และรัฐบาลได้ใส่ใจปัญหานี้เป็นสำคัญ แก้ไขปัญหาทั้งระยะเร่งด่วน และเตรียมแผนระยะยาว อย่างเป็นรูปธรรม 

 

คณรัตน์ ยินดีมิตร / ข่าว / เรียบเรียง 

ประมวลผลภาพ

วิดีโอ