นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธานคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (ประธานวิปรัฐบาล) กล่าวถึงความเห็นต่อกรณีศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์วินิจฉัยสั่งยุบพรรคก้าวไกล ในคดีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 เมื่อวานนี้ (7 ส.ค.67) ว่า ตนเห็นว่าขณะนี้ต้องให้กำลังใจพรรคก้าวไกล แต่ทุกสิ่งทุกอย่างต้องเป็นไปตามกฎหมาย ตามกติกา ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัย ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติที่ต้องยอมรับและเป็นเรื่องธรรมดาในทางการเมือง เพราะที่ผ่านมา การเมืองไทยเคยได้ผ่านเรื่องเหล่านี้มาแล้ว ถึงแม้จะมีผู้ไม่เห็นด้วย แต่ต้องยอมรับในวิธีการทำงานของศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากคำวินิจฉัยมีความผูกพันกับทุกองค์กรอยู่แล้ว ส่วนการทำงานการเมืองต่อไปของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ที่เคยสังกัดอดีตพรรคก้าวไกล นั้น ตนมองว่า กรณีการยุบพรรค ทำให้ สส.ของพรรค ถูกสั่งตัดสิทธิ์ทางเมือง เป็นระยะเวลา 10 ปี ไม่เกิน 5 คน ทำให้สัดส่วนของ สส.ฝ่ายค้าน ที่ทำงานในสภาผู้แทนราษฎร ไม่ได้แตกต่างจากสัดส่วน สส.ของพรรคการเมืองฝ่ายรัฐบาล มากนัก ส่งผลให้สภาฯ ยังสามารถทำงานตามปกติได้ ไม่มีอะไรน่ากังวลและเป็นห่วง
นายวิสุทธิ์ กล่าวถึงความเห็นต่อตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการ และกรรมาธิการ (กมธ.) ในโควต้าของพรรคก้าวไกล ภายหลังการถูกยุบพรรค ว่า เรื่อง กมธ. ต้องไปดูสัดส่วนของแต่ละพรรค ซึ่งสภาฯ มีแนวทางปฏิบัติอยู่แล้วว่าจะต้องปรับเปลี่ยนอย่างไรให้ครบถ้วน พอเหมาะพอดีตามสัดส่วนที่เคยได้ตกลงกันไว้ ด้านตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ซึ่งว่างลงนั้น ขณะนี้ ตนยังไม่กล้าตอบว่าใครจะได้เป็นรองประธานสภาฯ คนที่หนึ่ง แต่ที่แน่ชัดที่สุด คือ ในวันพุธหน้า (14 ส.ค.67) จะมีการโหวตเลือกรองประธานสภาฯ คนที่หนึ่ง ในที่ประชุมสภาฯ แน่นอน ส่วนการเจรจา ต้องเป็นผู้นำของพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรค มาเจรจาร่วมกันเพื่อเลือกบุคคลที่เหมาะสมเข้ามาทำหน้าที่ ย้ำ ผู้ที่จะมาเป็นรองประธานสภาฯ คนที่หนึ่ง ต้องเป็นสัดส่วนของฝ่ายรัฐบาล แน่นอน โดยตนเห็นว่า ผู้ที่มีความเหมาะสมจะมาดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่หนึ่ง ต้องมีคุณสมบัติเป็นกลางทางการเมือง แม่นข้อบังคับการประชุมสภาฯ และทำหน้าที่ควบคุมการประชุมสภาฯ ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ทั้งนี้ ตนมองว่า สส.ฝ่ายรัฐบาล หลายคนมีความพร้อมทำหน้าที่นี้ ไม่มีอะไรต้องกังวล และการที่มีกระแสข่าวว่ามีรายชื่อของ นายภราดร ปริศนานันทกุล สส. จังหวัดอ่างทอง พรรคภูมิใจไทย เป็นแคนดิเดตรองประธานสภาฯ คนที่หนึ่ง คนใหม่ นั้น ตนมองว่ามีความเหมาะสม
ต่อข้อถามของผู้สื่อข่าวถึงความเห็นต่อกรณีตำแหน่ง สส. จังหวัดพิษณุโลก ว่างลง 1 ตำแหน่ง จากการที่ นายปดิพัทธ์ สันติภาดา อดีต สส. จังหวัดพิษณุโลก พ้นจากตำแหน่งจากคำวินิจฉัยยุบพรรคก้าวไกลของศาลรัฐธรรมนูญ ทางพรรคเพื่อไทย จะส่งคนลงสมัครเลือกตั้งซ่อมหรือไม่ นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องให้กรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย เป็นผู้พิจารณา ซึ่งปกติโดยมารยาทของพรรคร่วมรัฐบาล ต้องให้พรรคที่ได้คะแนนสูงสุดในเขตเลือกตั้งในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาเป็นผู้ส่งผู้สมัคร ก่อน กรณีนี้คือพรรคพลังประชารัฐ หลังจากนี้ ต้องรอให้ทางผู้บริหารของพรรคเพื่อไทย และพรรคพลังประชารัฐ หารือร่วมกัน ต่อไป
คณรัตน์ ยินดีมิตร / ข่าว / เรียบเรียง