นายณัฏฐกฤษฎ์ วงศ์เจริญ รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานเปิดโครงการ library Talk เรื่อง คน+ป่า ทับลานโมเดล เพื่อความยั่งยืน ซึ่งจัดโดยหอสมุดรัฐสภา สำนักวิชาการ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เพื่อสร้างการรับรู้ด้านสารสนเทศเกี่ยวกับประเด็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับกรณีอุทยานแห่งชาติทับลาน ปลูกฝังจิตสำนึกการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ส่งเสริมให้หอสมุดรัฐสภาเกิดภาพลักษณ์ที่ดีเป็นวงกว้าง และให้หอสมุดรัฐสภาเป็นผู้นำด้านการให้บริการสารสนเทศของสถาบันนิติบัญญัติ
โดยนายมาณิช อินทฉิม ผู้อำนวยการสำนักวิชาการ กล่าวถึงที่มาของการจัดสัมมนาครั้งนี้ว่า ปัจจุบันการให้บริการของหอสมุดรัฐสภาในฐานะหน่วยงานสนับสนุนสถาบันนิติบัญญัติ จำเป็นต้องปรับตัวในการให้บริการสารสนเทศในเชิงรุกแก่บุคคลในวงงานรัฐสภาและประชาชน โดยเฉพาะประชาชนที่มีความคาดหวังต่อการรับรู้ข่าวสารจากหน่วยงานภาครัฐมากยิ่งขึ้น ซึ่งปัจจุบันสังคมมีประเด็นปัญหาใหม่ๆที่เกิดขึ้นตลอดเวลา และจำเป็นต้องมีการเสนอแก้กฎหมาย เพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆผ่านกระบวนการนิติบัญญัติ สำหรับประเด็นการประกาศให้มีการปรับแนวเขตอุทยานแห่งชาติทับลานที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางธรรมชาติ จำนวน 2.6 แสนไร่ ออกจากพื้นที่อุทยานแห่งชาติทับลาน ทำให้ทุกภาคส่วนจำเป็นต้องร่วมกันพิจารณาหาแนวทางการแก้ไขปัญหา เพื่อเป็นโมเดลในการแก้ไขปัญหาเรื่องคนกับป่าที่อาจจะเกิดปัญหาขึ้นในพื้นที่อุทยานแห่งอื่น ด้วยความสำคัญดังกล่าวจึงได้มีการจัดสัมมนาครั้งนี้ขึ้น
ด้านนายณัฏฐกฤษฎ์ กล่าวว่า รัฐสภามีหน้าที่ตรากฎหมาย โดยเฉพาะกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับผืนป่า จำเป็นต้องคำนึงถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของทุกฝ่ายเป็นสำคัญ ซึ่งการจัดโครงการครั้งนี้มองว่าจะทำให้กลุ่มเป้าหมายมีความรู้ความเข้าใจในประเด็นผืนป่าทับลาน โดยเฉพาะ การปรับอาณาเขตอุทยานแห่งชาติทับลาน ซึ่งเป็นประเด็นที่สังคมให้ความสนใจในขณะนี้ นอกจากนี้คาดหวังให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้รับความรู้ความเข้าใจ การใช้ระบบสารสนเทศที่เกี่ยวข้องกับข้อกฎหมาย และปลูกฝังจิตสำนึกการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ซึ่งในปีนี้ตรงกับการครบรอบ 34 ปี มูลนิธิสืบนาคะเสถียร
จากนั้นเป็นการเสวนา เรื่อง คน+ป่า : ทับลานโมเดล เพื่อความยั่งยืน โดย นายสุปัน รักเชื้อประธานสภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย นายภานุเดช เกิดมะลิ ประธานมูลนิธิสืบนาคะเสถียร นายพงศา ชูแนม ประธานมูลนิธิธนาคารต้นไม้และหัวหน้าพรรคกรีน โดยในวงเสวนาได้ระบุถึงปัญหาพื้นที่ทับซ้อนป่าทับลาน ซึ่งมีผู้เกี่ยวข้องใน 2 ส่วนหลัก ๆ คือ กลุ่มนายทุน นักธุรกิจ ผู้บุกรุกพื้นที่ และผู้เช่าซื้อ ส่วนกลุ่มที่สองคือชาวบ้านที่เป็นผู้บุกรุก ผู้อาศัยอยู่เดิม ผู้ได้รับสิทธิ และผู้ที่ขายสิทธิให้กับนายทุน ซึ่งหากย้อนกลับไปเมื่อปี พ.ศ. 2534 รัฐบาลมีคำสั่งปรับปรุงพื้นที่ป่าทับลาน โดยมีมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) รองรับ เป็นครั้งแรกที่ประชาชน และเจ้าหน้าที่กรมที่ดินออกสำรวจพื้นที่ร่วมกัน ทำให้ทราบปัญหาพื้นที่ทับซ้อน แต่หลังจากนั้นเป็นต้นมาการเปลี่ยนแปลงอาณาเขตขาดการดำเนินการร่วมกับประชาชน จนเกิดเป็นปมปัญหาในปัจจุบัน ทั้งนี้ที่ผ่านมามูลนิธิสืบนาคะเสถียร ได้จัดทำแบบสอบถามถึงประเด็นปัญหาการเพิกถอนพื้นที่ประทับตราว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย ทั้งการลงไปในชุมชนและแบบสอบถามออนไลน์ ความเห็นซึ่งได้รับความเห็นกว่า 900,000 ความเห็น พบว่าเกือบ 100% ไม่เห็นด้วยให้มีการเพิกถอนพื้นที่ดังกล่าว
ณัฐเดช เอียดปุ่ม /ข่าว /เรียบเรียง