นายกันต์พงษ์ ประยูรศักดิ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) กรุงเทพมหานคร พรรคประชาชน แถลงข่าวถึงปัญหาราคาลิ้นจี่ตกต่ำ ว่า ตนและเพื่อน สส.ได้มีโอกาสลงพื้นที่ที่บ้านโป่ง อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อตรวจสอบสถานการณ์การผลิตและราคาลิ้นจี่ ซึ่งพบว่าผลผลิตปีนี้ออกมาดี แต่ราคากลับตกต่ำมากอย่างน่าตกใจ โดยจากข้อมูลในพื้นที่ พบว่า อำเภอฝางสามารถผลิตลิ้นจี่ได้ถึง 50,000 ตัน คิดเป็นมูลค่าทางเศรษฐกิจถึง 5,000 ล้านบาท โดยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาเกษตรกรขายลิ้นจี่ได้ในราคากิโลกรัมละ 100 บาท แต่ปรากฎว่าสถานการณ์ขณะนี้ราคาลิ้นจี่กลับตกลงเหลือเพียง 18 บาท/กิโลกรัม ในบางไซส์ราคาเหลือไม่ถึง 10 บาท ต่อกิโลกรัม ไม่สะท้อนความเป็นจริงของต้นทุนการผลิต จนเกษตรกรได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก โดยสาเหตุหนึ่งมาจากปัญหาเดิมที่ยังไม่ถูกแก้ไข คือ พ่อค้าคนกลาง ที่กดราคาผลผลิตของเกษตรกร โดยที่ไม่ต้องรับภาระใดๆ ในการผลิต แต่กลับได้กำไรสูงถึง 3 เท่าหรือมากกว่า อาทิ ลิ้นจี่ที่ซื้อจากเกษตรกรในราคา 20 บาท/กิโลกรัม ถูกนำไปขายในห้างหรือออนไลน์ในราคาสูงถึง 120-150 บาท/กิโลกรัม โดยตนขอนำเสนอ 3 ย. ที่เป็นสาเหตุของปัญหาดังกล่าว คือ 1.ย.ย่ำอยู่กับที่ เนื่องจากกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงเกษตรยังไม่มีความคืบหน้าในการแก้ปัญหายังคงอยู่ที่เดิม ไม่สามารถจัดการกับระบบการตลาดหรือกลไกราคาได้ 2. ย.แย่ ราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำลงมาก เกษตรกรขายผลผลิตไม่ได้ราคา เกิดภาวะขาดทุนต่อเนื่อง อาทิ ราคาลิ้นจี่ลดจาก 100 เหลือ 18 บาท/กิโลกรัม และ 3. ย.อยู่อย่างไร ด้วยราคาที่ตกต่ำและต้นทุนที่สูง ทำให้เกษตรกรอยู่ลำบาก ต้องดิ้นรนเพื่อความอยู่รอด โดยไม่มีหลักประกันหรือความช่วยเหลือที่ยั่งยืนจากรัฐ
ดังนั้น เพื่อรับมือกับสถานการณ์นี้ ตนจึงมีข้อเสนอ 2 ย. เป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหา ได้แก่ 1.ย.ยั่งยืน โดยโดยกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ต้องมีการจัดการระบบเกษตรให้ครบวงจร ตั้งแต่ราคาปุ๋ย การแปรรูปผลผลิต การขนส่ง ไปจนถึงการดูแลตลาดจำหน่าย เพื่อกำกับดูแลให้มีราคากลางที่ชัดเจน ไม่ให้ราคาผลผลิตผันผวนเกินไป และ 2.ย.ยุติธรรม ต้องสร้างความยุติธรรมให้กับทุกฝ่าย ได้แก่ ผู้ผลิต (เกษตรกร) ผู้ประกอบการ และผู้บริโภค โดยลดอำนาจการควบคุมราคาจากพ่อค้าคนกลางที่ทำกำไรสูงเกินไปโดยไม่แบกรับต้นทุน ทั้งนี้ ตนหวังว่าข้อเสนอดังกล่าวจะสะท้อนถึงความต้องการให้รัฐเข้ามาจัดการอย่างจริงจังและมีระบบ เพื่อให้เกษตรกรไทยสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างมั่นคงและเป็นธรรมในระยะยาว
อรุณี ตันศักดิ์ดา ข่าว/เรียบเรียง