นายภัทรพงษ์ ลีลาภัทร์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) จังหวัดเชียงใหม่ พรรคประชาชน ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การป้องกันและบรรเทาผลกระทบจากภัยธรรมชาติและสาธารณภัย คนที่สอง สภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ในรายการสภาปริทัศน์ ประเด็น ร่างกฎหมายงบประมาณฯ ปี 2569 ตอบโจทย์ปัญหาสิ่งแวดล้อมมากแค่ไหน? ออกอากาศทางสถานีวิทยุกระจายเสียงรัฐสภา ว่า แม้ว่าที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีมติรับหลักการร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 วงเงิน 3.78 ล้านล้านบาท ไปเมื่อวันเสาร์ที่ 31 พ.ค.68 นั้น ตนได้ตั้งข้อสังเกตถึงประเด็นการจัดสรรงบประมาณด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมถึงงบประมาณสำหรับจังหวัดเชียงใหม่ ว่า ยังไม่สอดคล้องกับความรุนแรงของปัญหาที่ประเทศไทยกำลังเผชิญอยู่ในปัจจุบัน โดยเฉพาะปัญหาการบริหารจัดการขยะที่ไม่ได้ถูกจัดสรรงบประมาณอย่างเพียงพอ เช่นเดียวกับปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การแจ้งเตือนแผ่นดินไหว ปัญหามลพิษทางน้ำข้ามแดนจากเมียนมา ขณะที่ปัญหาไฟป่า ถูกตัดงบกว่า 2,000 ล้านบาท ตลอดช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ตั้วแต่ปี 67-69 เช่นเดียวกับงบประมาณสำหรับป่าสงวนซึ่งภารกิจถูกโอนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ก็ถูกตัดลดลงอย่างมาก เช่น ปี 2567 ถูกตัดจาก 1,800 ล้านบาท เหลือเพียง 50 ล้านบาท, ปี 2568 และ 2569 ถูกตัดจาก 1,400 ล้านบาท เหลือเพียง 122 ล้านบาท ส่วนงบประมาณสำหรับดูแลป่าสงวนทั่วประเทศ ได้รับการจัดสรรที่ 200 ล้านบาทถือว่าไม่เพียงพออย่างยิ่ง เมื่อเทียบกับป่าอนุรักษ์ของกรมอุทยานแห่งชาติฯ ที่ได้รับ 1,000 ล้านบาท จากที่เสนอขอ 2,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นไปได้ว่า รัฐบาลอาจนำเงินจากงบกลางมาให้แก้ไขปัญหา ซึ่งมีประสิทธิภาพน้อยกว่าการให้หน่วยรับงบประมาณตั้งเป็นโครงการเพื่อของบประมาณประจำปีเพื่อเตรียมการป้องกันล่วงหน้า
นายภัทรพงษ์ กล่าวถึงการจัดสรรงบประมาณของจังหวัดเชียงใหม่ และกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบนในปี 2569 ว่า งบประมาณภาพรวมของจังหวัดเชียงใหม่ที่ได้รับการจัดสรรวงเงิน 353 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนไม่มากนัก เมื่อเทียบกับขนาดและความรับผิดชอบของจังหวัด อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาลงลึกรายโครงการ พบว่า ร้อยละ 80 ของโครงการเกี่ยวกับท่องเที่ยว ถูกนำไปทำถนน โดยเปลี่ยนชื่อเป็นการสร้างเส้นทางเชื่อมต่อแหล่งท่องเที่ยว ซึ่งตนตั้งข้อสังเกตว่า งบเหล่านี้ควรอยู่ในความรับผิดชอบของกรมทางหลวงหรือทางหลวงชนบทมากกว่าที่จะอยู่ในงบจังหวัด ขณะที่งบประมาณด้านสิ่งแวดล้อม วงเงินกว่า 100 ล้านบาทนั้น มีเพียง 12 ล้านบาทเท่านั้นที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับ PM 2.5 ส่วนที่เหลือเป็นการปรับปรุงภูมิทัศน์ต่างๆ เช่น คลองแม่ข่า 25 ล้านบาท การจัดสรรงบประมาณในลักษณะนี้ถือเป็นการแก้ปัญหาที่ไม่แก้ที่ต้นเหตุ
นายภัทรพงษ์ กล่าวถึงบทบาทของ กมธ.การป้องกันและบรรเทาผลกระทบจากภัยธรรมชาติและสาธารณภัย สภาผู้แทนราษฎร ในช่วงปิดสมัยประชุม ว่า กมธ. กำลังเตรียมความพร้อมรับมือกับปัญหาอุทกภัยที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงเดือน ก.ย.-ต.ค. นี้ แม้บางพื้นที่จะเริ่มประสบปัญหาแล้วในเดือน พ.ค. โดยมีการประสานงานกับกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และ อปท. จัดจัดอบรมระบบบัญชาการเหตุการณ์ (Incident Command System - ICS) ให้กับผู้อำนวยการท้องถิ่น ให้เข้าใจขั้นตอนการปฏิบัติเมื่อเกิดอุทกภัย และการอบรมการบริหารจัดการภัยพิบัติโดยชุมชนเป็นฐาน (Community-based Disaster Management - CBDM) เพื่อให้ชุมชนสามารถรับมือในเบื้องต้น เช่น การแจ้งเตือนและการอพยพได้ การดำเนินงานเหล่านี้มีเป้าหมายเพื่อเพิ่มความพร้อมในการรับมือกับภัยพิบัติ โดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยงสูง
ณัฐพล สงวนทรัพย์ ข่าว/เรียบเรียง