มติที่ประชุมสภาฯ เห็นชอบร่าง พ.ร.บ.ยกเลิกประกาศ คสช.ฯ ที่หมดความจำเป็น

        การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่หนึ่ง ทำหน้าที่ประธานการประชุม โดยมีวาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ยกเลิกประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติและคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติบางฉบับที่หมดความจำเป็นและไม่เหมาะสมกับกาลปัจจุบัน พ.ศ. .... โดยเป็นการประชุมต่อจากเมื่อวันที่ 23 ก.ค. ที่ผ่านมา

        นายจาตุรนต์  ฉายแสง ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ยกเลิกประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติและคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติบางฉบับที่หมดความจำเป็นและไม่เหมาะสมกับกาลปัจจุบัน พ.ศ. .... กล่าวถึงหลักการและเหตุผลของการยกเลิก ว่า เนื่องจากคำสั่งดังกล่าวหลายฉบับจำกัดสิทธิเสรีภาพของประชาชน ขัดต่อหลักสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตย รวมถึงหลักนิติธรรม และไม่มีการมีส่วนร่วมของประชาชนในการออกกฎหมาย แม้บางส่วนจะถูกยกเลิกไปแล้ว แต่ยังมีอีกหลายฉบับที่ส่งผลกระทบต่อประชาชนในด้านสิทธิเสรีภาพ เศรษฐกิจ สังคม และชีวิตประจำวัน ทั้งนี้ กมธ. ให้ความสำคัญกับการพิจารณาการยกเลิกประกาศ และคำสั่งหัวหน้า คสช. รวมทั้งสิ้น 77 ฉบับ และได้แก้ไขเพิ่มเติมร่าง พ.ร.บ.นี้ โดยยกเลิกคำสั่ง และประกาศ คสช. รวม 55 ฉบับ ส่วนคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ยังคงไว้มีอยู่ 22 ฉบับ เหตุผลสำคัญ คือ เป็นคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ต้องแก้ไขกฎหมายก่อนยกเลิก 9 ฉบับ เป็นคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่หน่วยงานร้องขอให้คงไว้เพื่อให้แก้กฎหมายที่เกี่ยวข้องก่อน 3 ฉบับ คำสั่งหัวหน้า คสช. ที่หน่วยงานขอให้คงไว้ เนื่องจากมีหน่วยงานหรือ ส.ส. อยู่ระหว่างการเสนอร่างกฎหมายซึ่งมีบทบัญญัติยกเลิกคำสั่งอยู่แล้ว 3 ฉบับ และคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่หน่วยงานร้องขอให้คงไว้อีก 7 ฉบับ

        โดยภายหลังจาก สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ได้มีการอภิปรายอย่างกว้างขวาง และมีการลงมติเรียงตามลำดับมาตราในวาระสองแล้ว ที่ประชุมสภาฯ ได้ลงมติในวาระสาม ผลปรากฎว่า ที่ประชุมสภาฯ มีมติเห็นชอบ ร่าง พ.ร.บ.ยกเลิกประกาศคณะรักษาความสงบแห่งชาติและคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติบางฉบับที่หมดความจำเป็นและไม่เหมาะสมกับกาลปัจจุบัน พ.ศ. .... ด้วยคะแนน 402 เสียง ไม่เห็นด้วยไม่มี งดออกเสียง 1 เสียง ไม่ลงคะแนน 3 เสียง พร้อมเห็นชอบข้อสังเกตของ กมธ.วิสามัญ โดยขั้นตอนหลังจากนี้จะส่งร่างกฎหมายให้วุฒิสภาพิจารณาต่อไป

ณัฐพล  สงวนทรัพย์  ข่าว/เรียบเรียง