30 ก.ค.68-มติที่ประชุมสภาฯ เห็นชอบร่างกฎหมายป้องกันคุกคามทางเพศ ครอบคลุมการกระทำต่อหน้า-ออนไลน์ พร้อมให้สิทธิผู้เสียหายร้องศาลสั่งลบข้อมูลที่ถูกอนาจารได้โดยตรง ลดผลกระทบความเสียหายในวงกว้าง

image

        ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์  มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุมโดยมีวาระพิจารณา ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ซึ่งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาเสร็จแล้ว โดยนายศุภชัย  ใจสมุทร ประธาน กมธ.วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... กล่าวถึงแถลงหลักการของร่างกฎหมายฉบับนี้ว่า ตามมติที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันพุธที่ 24 ก.ค.67 ได้พิจารณา และลงมติรับหลักการแห่งร่างกฎหมายแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่นายอนุทิน  ชาญวีรกูล กับคณะ เป็นผู้เสนอ และร่างกฎหมายแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่นางสาวภคมน หนุนอนันต์ กับคณะ เป็นผู้เสนอ และตั้งกรรมาธิการวิสามัญขึ้นคณะหนึ่งเพื่อพิจารณา กำหนดการแปรญัตติภายใน 15 วัน โดยให้ถือเอาร่างกฎหมายของนายอนุทิน ชาญวีรกูล กับคณะ เป็นหลักในการพิจารณา

        นายศุภชัย กล่าวชี้แจงว่า กมธ.วิสามัญ ได้พิจารณาแก้ไขเพิ่มเติมร่างกฎหมายดังกล่าวหลายประเด็น เพื่อให้สามารถบังคับใช้กฎหมายอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ​และเหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน โดยกำหนดให้การคุกคามทางเพศเป็นการกระทำที่เป็นความผิดอาญา​และต้องรับโทษเพื่อให้สอดคล้องกับบริบททางสังคมปัจจุบันที่การกระทำความผิดทางเพศมีความหลากหลายมากขึ้น โดยกำหนดนิยามลักษณะการกระทำอันถือว่าเป็นความผิดฐานคุกคามทางเพศ อีกทั้งยังกำหนดให้รวมถึงการกระทำคุกคามทางเพศผ่านระบบคอมพิวเตอร์ด้วย  รวมทั้งกำหนดความผิดฐานคุกคามทางเพศและกำหนดโทษ รวมถึงเหตุฉกรรจ์เพื่อให้ การคุกคามทางเพศเป็นความผิดทางอาญาและมีโทษ และป้องปรามไม่ให้เกิดการกระทำความผิดซ้ำขึ้นอีก โดยเฉพาะการกระทำผิดต่อเด็กซึ่งไม่สามารถต่อสู้หรือช่วยเหลือตนเองให้พ้นจากอันตรายจากการกระทำได้ ตลอดจนให้อำนาจศาลกำหนดมาตรการเพื่อความปลอดภัย​ในกรณีความผิดฐานคุกคามทางเพศ โดยมีเงื่อนไขและกำหนดระยะเวลาไม่เกิน 2 ปี ​และกำหนดโทษสำหรับผู้ฝ่าฝืน นอกจากนี้ ร่างกฎหมายดังกล่าวกำหนดให้ผู้เสียหายจากการกระทำความผิดคุกคามทางเพศผ่านระบบคอมพิวเตอร์สามารถยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อให้ศาลพิจารณาออกคำสั่งให้ผู้กระทำ ตลอดจนผู้ให้บริการระบบคอมพิวเตอร์ เช่น ผู้ให้บริการแพลตฟอร์ม Facebook LINE เป็นต้น หยุดการเผยแพร่ หรือนำภาพ หรือวิดีโอลามกของผู้เสียหายออกจากระบบคอมพิวเตอร์​ได้โดยไม่ต้องฟ้องเป็นคดีต่อศาลก่อน รวมทั้งกำหนดโทษสำหรับผู้ให้บริการระบบคอมพิวเตอร์ที่ฝ่าฝืนไม่ทำตามคำสั่งศาลเพื่อเป็นการหยุดยั้งความเสียหายให้ผู้กระทำการคุกคามทางเพศได้ทันท่วงที​

        ด้านนางสาวพัชรินทร์  ซำศิริพงษ์ กรรมาธิการฯ กล่าวว่า ในอดีตไม่มีคำนิยามและโทษของการกระทำความผิดผ่านทางระบบออนไลน์ มีเพียงเหตุเดือดร้อนรำคาญ ที่เป็นเพียงความผิดลหุโทษ ขณะที่การให้สิทธิผู้เสียหายในกรณีการคุกคามทางเพศ เช่น การถูกเผยแพร่ภาพโป๊ อนาจาร ของตนเอง สามารถร้องขอให้ศาลสั่งลบข้อมูลโดยตรง ซึ่งเดิมในกฎหมายอาญาและ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ การลบข้อมูลหรือระงับการเผยแพร่ มักเกิดจากดุลพินิจของเจ้าหน้าที่หรือหน่วยงานรัฐ เช่น พนักงานอัยการหรือกระทรวงดิจิทัลฯ การเติมมาตรา 284/4 ทำให้ ผู้เสียหายมีสถานะ “ผู้มีสิทธิร้องขอ” โดยตรงต่อศาล โดยไม่ต้องรอให้รัฐเป็นผู้เริ่มกระบวนการขอต่อศาล ซึ่งเป็นการเพิ่มอำนาจและสิทธิในการปกป้องตนเองของผู้เสียหายโดยตรง อีกทั้งเป็นการความสำคัญของการลบข้อมูลลามกโดยเร็ว จากปกติการลบหรือระงับข้อมูลในระบบดิจิทัลในกระบวนการปกติอาจใช้เวลานาน แต่เมื่อบัญญัติให้ศาลมีอำนาจไต่สวนตามคำร้องของผู้เสียหายและสามารถสั่งโดยตรงให้ผู้เกี่ยวข้องต้องปฏิบัติตามทันที เท่ากับว่าเพิ่มกลไก “เร่งด่วน” (Urgent Mechanism) ขึ้นมา สิ่งนี้มีผลดีมากต่อผู้เสียหาย เพราะข้อมูลลามก หรือภาพอนาจารที่เผยแพร่ทางออนไลน์ หากปล่อยไว้นาน ความเสียหายจะขยายวงกว้างอย่างรวดเร็ว การมีกลไกเร่งด่วน จึงช่วยลดความเสียหายทางจิตใจ และชื่อเสียงได้มากขึ้น

        ทั้งนี้ ภายหลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ได้อภิปรายอย่างกว้างขวาง และเมื่อพิจารณาเรียงตามลำดับมาตราในวาระที่สองเสร็จสิ้นแล้ว ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรได้ลงมติในวาระสาม ผลปรากฎว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ด้วยคะแนนเสียงเห็นด้วย 366 เสียง ไม่เห็นด้วยไม่มี งดออกเสียง 1 เสียง ไม่ลงคะแนน 4 เสียง และเห็นชอบกับข้อสังเกตของ กมธ.วิสามัญ

ณัฐพล  สงวนทรัพย์  ข่าว/เรียบเรียง

ประมวลผลภาพ

วิดีโอ