นายชูศักดิ์ ศิรินิล สส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2568 ในวาระที่ 2 และ 3 ว่าจะอยู่ในช่วงวันพุธที่ 13 ถึงวันศุกร์ที่ 15 ส.ค. 68 ส่วนกรณีที่ผู้สื่อข่าวถามถึงการอภิปรายงบประมาณของ สส. จำเป็นต้องมีการกำชับเรื่องใดเป็นพิเศษเพื่อไม่ให้ซ้ำรอยกับ นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน อดีต สส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ที่ถูกศาลศาลรัฐธรรมนูญสั่งพ้นสมาชิกภาพและตัดสิทธิทางการเมือง 10 ปี เนื่องจากกระทำขัดต่อมาตรา 144 ของรัฐธรรมนูญ ว่ากรณีของ นายพิเชษฐ์ ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวกับการอภิปรายงบประมาณ ในคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญมองว่ามีความเกี่ยวข้องกับการแปรญัตติ ไม่เกี่ยวกับการอภิปรายในสภา
นายชูศักดิ์ ตอบข้อถามถึงการที่มีผู้ร้องเอาผิดรัฐมนตรี และ สส. ทั้งสภา กระทำผิด มาตรา 144 ด้วยจากกรณีพิจารณาเห็นชอบงบประมาณ ปี 2568 เพื่อทำโครงการดิจิทัลวอลเล็ตด้วยว่า เมื่อดูหลักการจากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญแล้ว ตนมองว่าหาก พ.ร.บ.งบประมาณฯ ผ่านความเห็นชอบจากสภา และมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แล้ว ศาลจะไม่ไปก้าวก่าย ดังนั้น ศาลรัฐธรรมนูญจึงไม่รับคำร้องคดี นายพิเชษฐ์ ในส่วนของ พ.ร.บ.งบประมาณฯ ปี 2568 เนื่องจากเป็นกฎหมายที่ประกาศใช้แล้ว แต่รับคำร้องเฉพาะร่าง พ.ร.บ. งบประมาณฯ ปี 2569 ที่กำลังพิจารณาอยู่เท่านั้น
นายชูศักดิ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่มีผู้ร้องต่อสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ว่าเป็นการร้องทั่วไปหมดทั้งร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ ตั้งแต่ปี 2568 ซึ่งกฎหมายนี้จบไปแล้ว ส่วนคำวินิจฉัยใน พ.ร.บ.งบประมาณปี 2569 ประเด็นที่ศาลวินิจฉัย คือ ต้องมีข้อเท็จจริงว่าผู้นั้นเข้าไปเกี่ยวข้องกับการแปรญัตติ หากไม่มีข้อเท็จจริงนี้จบ จึงยืนยันว่า ครม. และ ส.ส. ได้พิจารณาไปตามที่หน่วยรับงบประมาณเสนอมา และเป็นการทำตามอำนาจหน้าที่ เว้นแต่จะมีข้อเท็จจริงว่ามีการเข้าไปเกี่ยวข้องไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อมจึงจะเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งจนถึงขณะนี้ยังไม่มีข้อเท็จจริงในส่วนนี้เกิดขึ้น และผู้เสนอโครงการดิจิทัลวอลเล็ตจึงไม่เข้าข่ายเช่นกัน
ณรารัฎฐ์ โพธินาม / ข่าว เรียบเรียง
