นายสฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง ประธานกรรมาธิการ(กมธ.)การแรงงาน สภาผู้แทนราษฎร และคณะ แถลงข่าวถึงการพิจารณาเรื่องแผนการรักษาความมั่นคงด้านแรงงาน เพื่อรองรับภาวะวิกฤตอันเนื่องมาจากสถานการณ์ความไม่สงบบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา โดยคณะกรรมาธิการฯ ได้พิจารณาในประเด็นต่างๆ อาทิ การปฏิรูประบบฐานข้อมูลของแรงงานสัญชาติกัมพูชา แผนการนำแรงงานสัญชาติอื่น เข้ามาทดแทนแรงงานที่เดินทางกลับไปยังประเทศต้นทาง แนวทางการใช้ยุทธศาสตร์ด้านเศรษฐกิจ ด้านสังคม ที่จำเป็นต่อการตอบโต้ฝ่ายกัมพูชา และการกำหนดมาตรการการตรวจสอบติดตามชาวกัมพูชาที่ผ่านเข้าและออกจุดผ่านแดน
นายสฤษฏ์พงษ์ กล่าวต่อว่า จากสถิติจำนวนแรงงานชาวกัมพูชาที่เข้ามาทำงานในประเทศไทยอย่างถูกต้องตามกฎหมาย มีประมาณ 5 แสนคน และคาดการณ์ว่ามีแรงงานผิดกฎหมายสัญชาติกัมพูชาอยู่ในประเทศไทยประมาณ 1 ล้านคน กรรมาธิการฯ จึงมีข้อเสนอแนะว่าจากสถานการณ์ความขัดแย้งบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาที่เกิดขึ้น รัฐบาลจึงควรมีมาตรการเพื่อเป็นการตอบโต้ทางเศรษฐกิจกับกัมพูชา โดยเห็นว่ามิติด้านแรงงานเป็นเรื่องที่ประเทศกัมพูชามีความจำเป็นต้องพึ่งพาทางเศรษฐกิจ ประเทศไทยจึงควรผลักดันแรงงานสัญชาติกัมพูชาโดยเฉพาะกลุ่มที่ถูกต้องตามกฎหมายประมาณร้อยละ 20 หรือประมาณ 1แสนคน ส่งกลับไปยังประเทศต้นทาง เพื่อเป็นการแสดงออกถึงมาตรการตอบโต้ซึ่งอาจช่วยลดความขัดแย้งลงได้ อีกทั้งระบบการจัดเก็บข้อมูลในปัจจุบันของแรงงานสัญชาติกัมพูชามีเพียงการจัดเก็บข้อมูลรายชื่อของแรงงานเท่านั้น ทำให้การติดตามแรงงานเป็นไปได้ยาก จึงอาจใช้โอกาสนี้เพื่อปรับกระบวนการจัดเก็บฐานข้อมูลแรงงานกัมพูชาที่เข้ามาทำงานในไทย โดยให้มีรายละเอียดของผู้ใช้แรงงานมากขึ้น ทั้งการจัดเก็บอัตลักษณ์และฐานข้อมูลส่วนบุคคล รวมทั้งการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และให้กระทรวงแรงงานจัดทำแผนเร่งรัดการจ้างงานของแรงงานไทยเพื่อทดแทนแรงงานกัมพูชาที่จะต้องถูกผลักดันกลับประเทศต้นทางด้วย
อรพรรณ ขันทองคำ ข่าว/เรียบเรียง
