นายธงชาติ รัตนวิชา เลขานุการประธานรัฐสภา ได้รับมอบหมายจากประธานรัฐสภาให้รับการยื่นหนังสือจาก นายแทนคุณ จิตต์อิสระ ประธานชมรมสันติประชาธรรม และ ผศ.นพ.วิชช์ เกษมทรัพย์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและจัดการความรู้เพื่อการควบคุมยาสูบ (ศจย.) คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล และคณะ เพื่อขอให้พิจารณาประเด็นการปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิตยาสูบ ซึ่งผู้ยื่นหนังสือระบุถึงกรณีที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) รับข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การเงิน การคลัง สถาบันการเงินและตลาดการเงิน สภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2568 เรื่องแนวทางการแก้ไขปัญหายาสูบและยาเส้นราคาตกต่ำ ในขณะที่ชมรมสันติประชาธรรม และคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล และสถาบันส่งเสริมสุขภาพไทย มูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ ซึ่งเป็นองค์กรทางด้านวิชาการที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมยาสูบของประเทศ มีความกังวลถึงผลประโยชน์สูงสุดที่รัฐจะได้จากการปรับโครงสร้างและอัตราภาษียาสูบตาม พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ภาษีสรรพสามิต พ.ศ. 2560 จึงขอเสนอให้ประธานรัฐสภา และคณะกรรมาธิการการเงินฯ ช่วยพิจารณาไปสู่การปรับอัตราภาษียาสูบเป็นอัตราเดียว และต้องเพิ่มมากกว่าร้อยละ 25 เพราะหากต่ำกว่าร้อยละ 25 จะทำให้มีผู้สูบบุหรี่เพิ่มมากขึ้น และรายได้จากภาษีของรัฐจะลดลง ดังนั้น จึงเสนอให้รัฐบาลพิจารณาปรับโครงสร้างภาษีบุหรี่ซิกาแรตร้อยละ 40 เพื่อจะช่วยเพิ่มรายได้จากภาษี และทำให้ราคาบุหรี่สูงขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ลดจำนวนผู้สูบบุหรี่ในประเทศได้ เป็นไปตามแนวทางการลดอุปสงค์ด้วยมาตรการทางด้านราคาและภาษี ภายใต้มาตรา 6 แห่งกรอบอนุสัญญาว่าด้วยการควบคุมยาสูบขององค์การอนามัยโลก ทั้งนี้ ขอให้รัฐบาลพิจารณาเข้าร่วมเป็นรัฐภาคีของพิธีสารว่าด้วยการขจัดการค้าผลิตภัณฑ์ยาสูบผิดกฎหมายขององค์การอนามัยโลกเพื่อแก้ไขปัญหาบุหรี่ผิดกฎหมายของประเทศไทย
นายธงชาติ กล่าวภายหลังรับหนังสือว่า ประเด็นดังกล่าวเป็นประโยชน์ต่อประชาชนในการทำให้ผู้สูบบุหรี่ลดลงและรัฐจะได้ภาษีเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ จะนำเรื่องดังกล่าวนำเรียนประธานรัฐสภาเพื่อส่งต่อให้คณะกรรมาธิการการเงิน การคลัง สถาบันการเงินและตลาดการเงิน พิจารณา เพื่อนำเสนอต่อรัฐบาลต่อไป
ณรารัฏฐ์ โพธินาม / ข่าว เรียบเรียง
