นายประหยัด จตุพรพิทักษ์กุล สมาชิกวุฒิสภา (สว.) กล่าวถึงปัญหาน้ำป่าไหลหลากดินโคลนถล่มในพื้นที่อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ ที่เกิดจากอิทธิพลของพายุคาจิกา และปัญหาการรุกล้ำลำน้ำปิง ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของน้ำท่วมจังหวัดเชียงใหม่ ว่า พายุคาจิกา ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากและดินโคลนถล่ม ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ โดยเฉพาะที่บ้านปางอุ๋งและบ้านปางอุ๋งใหม่ ตำบลแม่ศึก ที่ได้รับความเสียหายอย่างหนัก มีผู้เสียชีวิต 8 คน บาดเจ็บ 15 คน และสูญหาย 2 คน โดยคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติได้ลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 24-25 ก.ค.68 และพบว่ามีการรุกล้ำลำน้ำปิงในหลายพื้นที่ ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดน้ำท่วมในจังหวัดเชียงใหม่ เนื่องจากทำให้การระบายน้ำในช่วงฤดูฝนไม่มีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ หน่วยงานรัฐในพื้นที่ได้เคยสำรวจและจัดทำแผนที่การรุกล้ำลำน้ำปิงไว้แล้ว โดยเฉพาะในช่วงระยะทาง 20 กิโลเมตร จากสะพานนวรัฐขึ้นไปทางเหนือ 10 กิโลเมตร และลงจากสะพานนวรัฐมาทางทิศใต้ 10 กิโลเมตร พบประชาชนบุกรุกแม่น้ำปิงกว่า 200 ราย นอกจากนี้ ตามที่ตนได้ลงพื้นที่สำรวจด้วยตนเอง และพบว่ามีการรุกล้ำทั้งจากประชาชนและภาคธุรกิจ
นายประหยัด กล่าวด้วยว่า ตนมีข้อเสนอแนะถึงนายกรัฐมนตรี ให้เร่งช่วยเหลือเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบในอำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมจัดหาที่อยู่อาศัยใหม่สำหรับประชาชนที่บ้านเรือนเสียหาย 78 หลัง โดยจัดสรรงบประมาณก่อสร้างบ้านหลังใหม่ทดแทน นอกจากนี้ ตนมีข้อเสนอแนะถึงการแก้ไขปัญหาการรุกล้ำลำน้ำปิง โดยให้กรมเจ้าท่า กระทรวงคมนาคม ประสานงานกับกรมที่ดิน จังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ เร่งแก้ไขปัญหาการรุกล้ำลำน้ำปิงให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 53 ที่กำหนดให้รัฐต้องดูแลให้มีการปฏิบัติตามและบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด รวมถึงเร่งขุดลอกขยายความกว้างของลำน้ำปิงให้มีความกว้างอย่างน้อย 90 เมตร เพื่อรองรับการไหลของน้ำในฤดูฝน โดยเฉพาะในพื้นที่ที่หน่วยงานรัฐได้สำรวจและจัดทำแผนที่การรุกล้ำไว้แล้วตั้งแต่สะพานนวรัฐขึ้นไปทางเหนือ 10 กิโลเมตร และจากสะพานนวรัฐลงมาทางทิศใต้ 10 กิโลเมตร
ณัฐพล สงวนทรัพย์ ข่าว/เรียบเรียง