นายพละวัต ตันศิริ โฆษกกรรมาธิการ (กมธ.) การเศรษฐกิจ การเงิน และการคลัง วุฒิสภา พร้อมด้วย นายพงษ์ศักดิ์ เกิดวงศ์บัณฑิต รองประธาน กมธ. นายกิติศักดิ์ หมื่นศรี กมธ.การกฎหมายและการยุติธรรม วุฒิสภา และคณะ ร่วมแถลงถึงผลการพิจารณาของ กมธ. สองคณะ ต่อประเด็นผลกระทบที่เกิดขึ้นกับประชาชน โดยเฉพาะผู้ประกอบการ SME จากมาตรการจัดการบัญชีม้าของภาครัฐ เพราะพบว่ามาตรการดังกล่าวแม้จะเป็นการอายัดบัญชีที่รวดเร็วเพื่อหยุดยั้งการทำธุรกรรมผิดกฎหมาย แต่ในหลายกรณีการอายัดบัญชีเกิดขึ้นอย่างฉับพลัน ทำให้บัญชีของผู้สุจริตที่อาจถูกนำไปใช้โดยไม่รู้ตัวถูกอายัดไปด้วย จึงส่งผลกระทบต่อการค้าขายและสภาพคล่องของผู้ที่ไม่ใช่อาชญากรรมตัวจริง ขณะเดียวกันเรื่องขั้นตอนการขอคืนบัญชีมีความยุ่งยากซับซ้อนและใช้เวลานานทำให้ผู้ประกอบการและประชาชนได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ ยังเกิดความเสียหายในทางธุรกิจในเรื่องของความไม่ชัดเจนของเกณฑ์การบังคับใช้ ทำให้เจ้าหน้าที่แต่ละรายอาจใช้ดุลพินิจที่แตกต่างกันในการอายัดบัญชี
นายพละวัต กล่าวต่อไปว่า คณะ กมธ. ได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้ค้าชายแดนที่ได้รับผลกระทบถูกอายัดบัญชี ดังนั้น คณะ กมธ.ทั้งสองคณะ จึงพิจารณาและมีข้อเสนอแนะเพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและไม่ส่งผลกระทบต่อผู้บริสุทธิ์ โดยเห็นว่า ในระยะสั้นการกำหนดเกณฑ์อายัดบัญชีควรมีความรัดกุมและเป็นธรรม ควรกำหนดเกณฑ์การพิจารณาบัญชีที่ชัดเจนเป็นมาตรฐานเดียวกัน ด้วยการนำข้อมูลจากหลายหลากหลายแหล่งมาประกอบการพิจารณา เช่น พฤติกรรมการทำธุรกรรมที่ผิดปกติ การมีส่วนเกี่ยวข้องกับเครือข่ายมิจฉาชีพ ไม่ใช่แค่เพียงพิจารณาจากจำนวนการบัญชีหรือความถี่ในการโอนเงิน ส่วนการจะใช้มาตรการอายัดบัญชีชั่วคราวในระยะเวลาสั้น ๆ ควรต้องมีการแจ้งผู้ครอบครองบัญชีให้มาชี้แจงข้อมูลภายในกรอบระยะเวลาที่กำหนด เพื่อให้ผู้บริสุทธิ์มีโอกาสแสดงความบริสุทธิ์และจะได้ดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว สำหรับระยะกลางทาง คณะ กมธ.ทั้งสองคณะเห็นร่วมกันว่าสถาบันการเงินและผู้ให้บริการแพลตฟอร์มต่าง ๆ จะต้องทำงานร่วมกันอย่างอย่างใกล้ชิดเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลและพัฒนาระบบคัดกรองบัญชีที่เสี่ยงต่อการดึงบัญชีม้าตั้งแต่ต้นทาง ภาครัฐควรจัดกิจกรรมในการให้ความรู้แก่ประชาชนและผู้ประกอบการอย่างต่อเนื่องทั้งเรื่องแนวทางป้องกันนอกจากนี้ต้องมีฐานข้อมูลรวมอย่างเรียลไทม์ที่ภาครัฐสามารถเข้าถึงได้และควรมีการพัฒนาระบบที่ช่วยให้ผู้ถูกอายัดบัญชีสามารถยื่นคำร้องและชี้แจงข้อมูลได้อย่างรวดเร็วผ่านช่องทางดิจิทัล อย่างไรก็ตามสำหรับประชาชนและบริษัทที่ค้าขายโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่มีการค้าขายในปริมาณเงินค่อนข้างสูง ซึ่งทราบแล้วว่าขณะนี้บัญชีม้าได้เปลี่ยนวิธีการ ดังนั้น ร้านค้าจึงอาจจะต้องเก็บข้อมูลหรือทำบัญชีอย่างถูกต้องเพื่อเตรียมการในการชี้แจงอย่างรวดเร็ว ส่วนร้านค้าที่มีการค้าขายชายแดน จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการเจรจากับลูกค้าในกระบวนการการดำเนินการทางด้านการชำระเงินให้รัดกุมยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม คณะ กมธ.การเศรษฐกิจฯ และ คณะ กมธ.การกฎหมายฯ วุฒิสภา เชื่อว่าการปราบปรามภัยทางออนไลน์เป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง แต่การดำเนินการต้องรอบคอบและไม่สร้างภาระให้กับผู้ประกอบการ รัฐต้องสร้างสมดุลระหว่างการบังคับใช้กฎหมายกับการอำนวยความสะดวกในการประกอบธุรกิจคือหัวใจสำคัญที่จะช่วยให้เศรษฐกิจของประเทศขับเคลื่อนไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง
ณัฐเดช เอียดปุ่ม /ข่าว /เรียบเรียง