นายอภินันท์ เผือกผ่อง สมาชิกวุฒิสภา (สว.) อภิปรายต่อรายงานผลการปฏิบัติงานของเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. ในการปราบปรามยาเสพติด ประจำปี พ.ศ.2567 (ตามมาตรา 11/1 วรรคหก แห่งพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดียาเสพติด พ.ศ.2550 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดียาเสพติด (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2564) ว่า เบื้องต้น ตนขอชื่นชมและเป็นกำลังใจให้กับสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (สำนักงาน ป.ป.ส.) ในการแก้ปัญหายาเสพติด โดยตนมีข้อเสนอแนะในการปฏิบัติงานบางส่วนในฐานะที่เคยมีประสบการณ์ในเรื่องการแก้ปัญหายาเสพติดในพื้นที่กว่า 30 ปี ต่อการปฏิบัติงานของสำนักงาน ป.ป.ส. ได้แก่ ข้อแรก เรื่องข้อมูล ตนเชื่อว่าข้อมูลผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติดที่สำนักงาน ป.ป.ส. ได้รับในขณะนี้ ไม่ใช่ข้อมูลที่เป็นความจริง กระบวนการในการได้มาซึ่งข้อมูลจากหน่วยงานในพื้นที่ในฐานะเป็นผู้เก็บรวบรวมข้อมูล หลายครั้งพบว่าข้อมูลไม่ตรงกับเป็นความจริง ไม่ว่าจะเป็นผู้เสพย์ หรือผู้ค้า สะท้อนได้จากการที่มีหน่วยงานต่าง ๆ เข้าไปจับกุมในสถานบันเทิง จะพบผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติดจำนวนมาก ซึ่งบุคลเหล่านี้เมื่อตรวจสอบแล้วกลับไม่มีรายชื่ออยู่ในฐานข้อมูลที่สำนักงาน ป.ป.ส. ได้รวบรวมมาเพื่อแก้ไขปัญหาแต่อย่างใด เพราะฉะนั้น เรื่องนี้ถือเป็นโจทย์แรกที่สำนักงาน ป.ป.ส. จะต้องหาวิธีการว่าจะดำเนินการเชิงรุกอย่างไรให้ชุมชนมีส่วนร่วม โดยเฉพาะหมู่บ้าน จำนวน 78,000 หมู่บ้านทั่วประเทศไทย รวมถึงชุมชนจำนวน 20,000 กว่าชุมชน และให้ข้อมูลที่ถูกต้องแก่หน่วยงาน
สว.อภินันท์ กล่าวถึงข้อเสนอแนะข้อที่สอง เรื่องการป้องกันปัญหายาเสพติด ว่า ตามที่สำนักงาน ป.ป.ส. ได้รายงานว่ามีโครงการต่าง ๆ เกี่ยวกับการป้องกันปัญหายาเสพติด จำนวน 50,00 - 60,000 โครงการ นั้น ตนเห็นว่าโครงการเหล่านั้น ส่วนใหญ่เป็นโครงการที่ไม่ยั่งยืน เป็นโครงการที่ดำเนินการเหมือนกันทุกปี เป็นการทำเพียงชั่วคราวแล้วเบิกจ่ายงบประมาณ แต่ไม่มีผลสัมฤทธิ์ ตนจึงขอให้สำนักงาน ป.ป.ส. กลับไปทบทวนการดำเนินโครงการให้ดี ซึ่งตนมองว่าการป้องกันปัญหายาเสพติด หากจะดำเนินการในเชิงรุก ตนเชื่อว่าจะต้องใช้หมู่บ้านและชุมชนเป็นหัวใจสำคัญ สร้างเป็นหมู่บ้านและชุมชนเข้มแข็งอย่างยั่งยืน ผ่านการบูรรณาการการดำเนินการร่วมกันระหว่างผู้นำหมู่บ้าน ผู้นำชุมชน และผู้นำท้องถิ่น อย่างจริงจัง พร้อมสร้างกลไกชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน ทำหน้าที่ป้องกันปัญหายาเสพติด เป็นหน่วยนำในการที่จะสู้เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนหมู่บ้าน
สว.อภินันท์ กล่าวถึงข้อเสนอแนะข้อที่สาม เรื่องการปราบปรามปัญหายาเสพติด ว่า ในส่วนของผู้ค้ารายใหญ่ ตามที่ในรายงานระบุว่าสำนักงาน ป.ป.ส. สามารถจับและขยายผลยึดทรัพย์ได้เป็นจำนวนมากนั้น ตนเห็นว่าในส่วนของผู้ค้ารายย่อย ไม่สามารถละเลยได้ เพราะเป็นผู้จ่ายยาให้กับผู้เสพจริงในพื้นที่ ขณะเดียวกัน ตามที่สำนักงาน ป.ป.ส. ระบุจะต้องมีการปิดล้อมกวาดล้างตรวจค้น ตนมองว่าเป็นเพียงคำกล่าว แต่ในทางปฏิบัติจริงกลับไม่ได้ดำเนินการจริง ขณะข้อที่สี่ การบำบัดรักษา ตนมองว่า การคัดครอบและกำหนดเป็นสีต่าง ๆ ในทางทฤษฎีถือว่าเป็นเรื่องดี แต่ในทางปฏิบัติต้องพิจารณาด้วยว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่โรงพยาบาลแต่ละแห่งจะรองรับได้ ด้านข้อที่ห้า การฟื้นฟูผู้ผ่านการบำบัด ตนมองว่าโครงสร้างที่กำหนดไว้เป็นเรื่องดี แต่ในทางปฏิบัติไม่สามารถดำเนินการเนื่องจากไม่มีงบประมาณ จึงควรตั้งกองทุนโดยนำเงินจากรางวัลนำจับมาใส่ไว้ในกองทุนเพื่อนำไปใช้ป้องกันและแก้ไขปัญหา นอกจากนี้ ตนเสนอให้เจ้าหน้าที่ป้องกันและปราบปรามยาเสพติดที่มาจากหน่วยงานอื่น ได้รับค่าตอบแทนพิเศษเหมือนกันกับเจ้าพนักงาน ป.ป.ส. เพื่อสร้างขวัญกำลังใจในการปฏิบัติงาน ด้วย
คณรัตน์ ยินดีมิตร / ข่าว / เรียบเรียง
