นายอานุภาพ ลิขิตอำนวยชัย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) จังหวัดสมุทรสงคราม พรรคประชาชน กล่าวถึงข้อเรียกร้องรัฐบาลยกระดับสวัสดิการพนักงานจ้างเหมาบริการภาครัฐ เกือบ 1 ล้านคน ว่า ปัจจุบัน พนักงานกลุ่มนี้กำลังประสบปัญหาในการดำรงชีวิต เนื่องจาก ค่าครองชีพและรายจ่ายที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าสภาผู้แทนราษฎร เพิ่งผ่านความเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) คุ้มครองแรงงาน พ.ศ. .... โดยมีการเพิ่มวันหยุดและวันลาให้กับกลุ่มพนักงานจ้างเหมาบริการ แต่ในด้านค่าจ้างและสวัสดิการอื่น ๆ นั้น ยังมีความต้องการที่จะปรับเปลี่ยนให้มีความเหมาะสมกับหน้าที่ ภารกิจ และภาระงานที่ต้องรับผิดชอบอยู่ในปัจจุบัน ดังนั้น ตนขอเรียกร้องไปยัง 3 หน่วยงานหลัก ได้แก่ กระทรวงแรงงาน สำนักงบประมาณ และกรมบัญชีกลาง เพื่อผลักดันให้มีการขับเคลื่อนให้พนักงานจ้างเหมาบริการภาครัฐกลุ่มนี้ ถูกจัดให้เป็น “กลุ่มลูกจ้างกลุ่มพิเศษ” ซึ่งจะส่งผลให้ได้รับค่าจ้างและสวัสดิการที่ดีขึ้นกว่าเดิม และเพียงพอต่อการดำรงชีวิตในสภาวะปัจจุบัน
นายอานุภาพ กล่าวถึงวิกฤตลิ้นจี่พันธุ์ค่อมลำเจียก ซึ่งเป็นผลไม้ขึ้นชื่อของจังหวัดสมุทรสงคราม ว่า ลิ้นจี่สายพันธุ์นี้มีรสชาติอร่อยกว่าที่อื่น เนื่องจากเป็น สายพันธุ์ดั้งเดิมและเป็นผลไม้เฉพาะถิ่น ของจังหวัด โดยปกติจะให้ผลผลิตในช่วงเดือน เม.ย. ถึง พ.ค. แต่ปัจจุบันเกษตรกรกำลังประสบปัญหาอย่างหนักจากสภาพอากาศแปรปรวน ส่งผลให้ลิ้นจี่ของจังหวัดสมุทรสงคราม ไม่สามารถออกผลผลิตได้ เกษตรกรต้องแบกรับภาระทั้งค่าปุ๋ยและค่ายา บางรายทนรับภาระไม่ไหวจึงต้องตัดสินใจ โค่นต้นทิ้ง แล้วหันไปปลูกพืชชนิดอื่นแทน ทั้งนี้ ตนกังวลว่า หากสถานการณ์ยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไป ลิ้นจี่พันธุ์ค่อมลำเจียก ซึ่งมีต้นกำเนิดจากสมุทรสงครามอย่างแท้จริง อาจจะหมดไปอย่างแน่นอนในอนาคต ดังนั้น ตนขอเรียกร้องไปยังกรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้ดำเนินการ ศึกษา วิจัย และพัฒนา สายพันธุ์ลิ้นจี่ค่อมลำเจียกนี้ เพื่อให้สามารถให้ผลผลิตได้ในทุกปี ซึ่งจะช่วยให้เกษตรกรมีรายได้ที่สม่ำเสมอ ไม่ต้องโค่นต้นลิ้นจี่ทิ้ง และที่สำคัญที่สุดคือเป็นการอนุรักษ์พันธุ์ลิ้นจี่พื้นถิ่น ของจังหวัดสมุทรสงครามไว้ได้
ณัฐพล สงวนทรัพย์ ข่าว/เรียบเรียง