14 ต.ค. 68 – ภาพรวมวันแรกการประชุมร่วมกันของรัฐสภา พิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ 3 ฉบับจากพรรคประชาชน พรรคภูมิใจไทย และพรรคเพื่อไทย วาระรับหลักการ สมาชิกรัฐสภาอภิปรายต่อเนื่องกว่า 12 ชั่วโมง ย้ำหลักการไม่แก้หมวด 1-2 และไม่ขัดคำวินิจฉัยศาลฯ พร้อมนัดประชุมต่อพรุ่งนี้ เวลา 09.00 น. เตรียมลงมติหลังการอภิปรายเสร็จสิ้น

image

             ที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์  มะทา ประธานรัฐสภา เป็นประธานการประชุม โดยมี นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ในฐานะรองประธานรัฐสภา ผลัดเปลี่ยนทำหน้าที่ประธานการประชุม ได้พิจารณาเรื่องด่วน ร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... จำนวน 3 ฉบับ ได้แก่ ร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....จำนวน 3 ฉบับ ที่เสนอโดยนายพริษฐ์  วัชรสินธุ กับคณะ นายอนุทิน ชาญวีรกูล กับคณะ และรองศาสตราจารย์ชูศักดิ์ ศิรินิล กับคณะ เป็นผู้เสนอ เริ่มขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 09.45 น. ซึ่งเป็นการพิจารณาในวาระรับหลักการ โดยมีสมาชิกรัฐสภา ประกอบด้วย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) และสมาชิกวุฒิสภา (สว.) เข้าร่วมอภิปรายแสดงความเห็นพร้อมกันทั้ง 3 ฉบับ รวมกรอบเวลาพิจารณา 19 ชั่วโมง 30 นาที โดยแบ่งเป็นเวลาของประธานรัฐสภา 1 ชั่วโมง สมาชิกวุฒิสภา 5 ชั่วโมง 30 นาที พรรคร่วมรัฐบาล 3 ชั่วโมง และพรรคร่วมฝ่ายค้าน 10 ชั่วโมง

           โดย นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ได้เสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพิ่มเติมมาตรา 156 และเพิ่มหมวด 15/1 กำหนดให้มีคณะกรรมาธิการยกร่าง 35 คน มาจากการที่ประชาชนเลือกตั้ง 70 คนก่อน แล้วให้รัฐสภาคัดเหลือ 35 คน พร้อมสภาที่ปรึกษา 100 คน ที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรงโดยใช้จังหวัดเป็นเขตเลือกตั้ง จังหวัดละ 1-5 คน ตามจำนวนประชากร โดยคงรูปแบบรัฐเดี่ยวและระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และกำหนดให้ร่างต้องผ่านประชามติ 2 ครั้งจึงจะใช้บังคับได้

           ขณะที่ นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง เป็นตัวแทนพรรคภูมิใจไทย ได้กล่าวเสนอร่างแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 256 และเพิ่มหมวด 15/1 กำหนดให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) 99 คน มาจากการเลือกโดยอ้อมของสมาชิกรัฐสภา ประกอบด้วยตัวแทนจาก 77 จังหวัด จังหวัดละ 1 คน และผู้เชี่ยวชาญ 22 คน จากนั้นคณะกรรมการยกร่าง 45 คนจะดำเนินการยกร่าง ก่อนเสนอต่อรัฐสภาพิจารณา 3 วาระและนำไปทำประชามติ โดยระบุชัดเจนว่าห้ามแก้ไขหมวด 1 และหมวด 2

           ด้าน รองศาสตราจารย์ชูศักดิ์ ศิรินิล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ได้เสนอแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 156 และเพิ่มหมวด 15/1 กำหนดให้มี ส.ส.ร.151 คน โดยให้ประชาชนเลือกผู้สมัคร 300 คนก่อน จากนั้นรัฐสภาจะคัดเหลือ 100 คน โดยมีหลักประกันว่าจังหวัดละ 1 คนขึ้นไป และอีก 51 คนมาจากภาคส่วนต่างๆ อาทิ รัฐสภาเลือก องค์กรเอกชน และสภาวิชาชีพ ร่างนี้ยืนยันว่าไม่แก้ไขหมวด 1 และหมวด 2 เนื่องจากมาตรา 255 ครอบคลุมแล้ว กำหนดให้มีการทำประชามติ 3 ครั้ง โดยสามารถรวมครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 เข้าด้วยกันได้ พร้อมย้ำว่าอำนาจจัดทำรัฐธรรมนูญเป็นของรัฐสภา หากไม่เห็นชอบร่างจากสภาร่างรัฐธรรมนูญ ร่างนั้นจะตกไป

           จากนั้น สส.และ สว. ได้สลับกันอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง อาทิ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ได้อภิปรายเป็นคนแรก โดยสนับสนุนการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เปิดทางให้มี ส.ส.ร. แต่ต้องไม่แตะหมวด 1-2 โดยเฉพาะการลงมติวาระที่ 2 ต้องเลือกร่างที่ไม่แตะหมวด 1-2 เป็นหลัก การแก้ไขต้องไม่ขัดคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ และรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ควรส่งเสริมคนดีปกครองบ้านเมืองโดยคงมาตรฐานความซื่อสัตย์สุจริต

             นางสาวนันทนา นันทวโรภาส สมาชิกวุฒิสภา ได้อภิปรายว่า มีเพียงร่างพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาชนเท่านั้นที่ให้อำนาจประชาชนเลือก ส.ส.ร. ขณะที่ร่างพรรคภูมิใจไทยไม่เปิดให้ประชาชนมีส่วนร่วม พร้อมตั้งคำถามว่าจะนำไปสู่รัฐธรรมนูญฉบับสีน้ำเงิน หรือไม่ รวมทั้งขอเสนอแนะให้มีการปรับสัดส่วนตัวแทนที่ประชาชนเลือกจาก 3 ต่อ 1 เป็น 2 ต่อ 1 และเสนอคำถามประชามติ 2 ข้อ คือ เห็นด้วยจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ หรือไม่ และเห็นด้วยให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญ หรือไม่ ทั้งนี้ ขอให้รัฐบาลมีความจริงใจผลักดันให้มีประชามติอย่างเสรีและเป็นธรรม

             ด้าน นายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ อภิปรายว่าที่ผ่านมาไม่เห็นด้วยกับการแก้รัฐธรรมนูญ แต่เงื่อนไขการเมืองปัจจุบันบังคับให้ต้องแก้ โดยวางเงื่อนไขชัดเจนว่าจะรับหลักการก็ต่อเมื่อไม่แตะหมวด 1-2 และรอฟังพรรคเพื่อไทย-ประชาชนชี้แจงหลักประกันว่าจะไม่แก้หมวด 1-2 ขณะชื่นชมร่างพรรคภูมิใจไทยที่เขียนห้ามแก้หมวด 1-2 ชัดเจน

             ขณะที่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่าน พรรคเพื่อไทย อภิปรายสนับสนุนให้รับหลักการทั้ง 3 ร่าง โดยยืนยันร่างพรรคเพื่อไทยไม่ขัดคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ เพราะให้รัฐสภาคัดเลือก ส.ส.ร. ไม่ใช่ประชาชนเลือกตรง พร้อมเสนอใช้ร่างพรรคเพื่อไทยเป็นร่างหลัก เพราะเน้นการมีส่วนร่วมของประชาชน รวมทั้งขอให้เร่งรัดไทม์ไลน์ให้ลงมติวาระ 3 ทันภายใน 8 ธ.ค. 68 เพื่อส่งให้ ครม. วันที่ 12 ธ.ค. นี้ ดำเนินการจัดทำประชามติ พร้อมวันเลือกตั้งทั่วไป

              ภายหลังจากสมาชิกรัฐสภาอภิปรายต่อเนื่องกว่า 12 ชั่วโมง นายวันมูหะมัดนอร์  มะทา ประธานรัฐสภา ประธานในที่ประชุม สั่งพักการประชุมเวลาประมาณ 21.44 น. และนัดประชุมต่อในวันพุธที่ 15 ต.ค.68 เวลา 09.00 น. โดยเมื่อการอภิปรายเสร็จสิ้น คาดว่าจะเข้าสู่การลงมติแยกรายฉบับ โดยวิธีขานชื่อเป็นรายบุคคลได้ในเวลาประมาณ 14.00 น.ของวันพรุ่งนี้

อรุณี ตันศักดิ์ดา ข่าว/เรียบเรียง

ประมวลผลภาพ

วิดีโอ