นางสาวขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย อภิปรายต่อที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา ในการพิจารณาเรื่องด่วน ร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... จำนวน 3 ฉบับ คือ ร่างฉบับของพรรคประชาชนที่ นายพริษฐ์ วัชรสินธุ กับคณะเป็นผู้เสนอ ร่างฉบับของพรรคภูมิใจไทยที่ นายอนุทิน ชาญวีกูล กับคณะเป็นผู้เสนอ และร่างฉบับของพรรคเพื่อไทยที่ นายชูศักดิ์ ศิรินิล กับคณะเป็นผู้เสนอ ซึ่งเป็นการพิจารณาในวาระรับหลักการ โดยกล่าวถึงข้อสงสัยว่าพรรคเพื่อไทยไม่มีความจริงใจในการแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ ตนอยากตอบให้ชัดและต้องการให้สภาแห่งนี้บันทึกไว้ว่า ไม่มีเหตุผลใดเลยที่พรรคเพื่อไทยอยากจะคงรักษารัฐธรรมนูญฉบับปี60ไว้ เพราะถ้าจะมีพรรคการเมืองใดที่เจ็บปวดที่สุดจากรัฐธรรมนูญฉบับนี้ หนึ่งในนั้นคือพรรคเพื่อไทย เพราะพรรคเพื่อไทยคือพรรคที่นายกรัฐมนตรีที่มาจากประชาชนต้องพ้นจากตำแหน่งถึง 2คน จากกลไกของรัฐธรรมนูญฉบับนี้ นโยบายต่างๆต้องถูกหยุดเอาไว้กลางทาง ทั้งหมดนี้ไม่ใช่เพราะนโยบายนั้นไม่ดีแต่เป็นเพราะกลไกและกติกาที่ถูกวางเอาไว้ไม่เปิดทางให้รัฐบาลที่มาจากประชาชนนั้นสามารถที่จะทำงานได้อย่างเต็มศักยภาพ
ซึ่งรัฐธรรมนูญฉบับปี60 คือรัฐธรรมนูญที่เริ่มต้นจากการยึดอำนาจ และยึดไว้จนถึงกระบวนการการออกแบบแทบทุกบรรทัด นี่คือรัฐธรรมนูญที่เกิดจากคณะรัฐประหาร และผ่านประชามติภายใต้ระบบทหารที่ปิดปากประชาชน จึงทำให้ได้รัฐธรรมนูญที่ประชาชนไม่ได้มีส่วนร่วมเลยแม้แต่น้อย และคนจำนวนมากไม่เคยเห็นฉบับเต็มก่อนที่จะลงประชามติ ซึ่งวันนี้ทำให้เห็นว่า รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งอ่อนแอ องค์กรที่ไม่ได้มาจากประชาชนกับแข็งแรงกว่ารัฐบาล และผู้คนที่ประชาชนเป็นคนเลือกระบบตรวจสอบที่เคยเป็นการถ่วงดุล กลายเป็นเครื่องมือในการถ่วงความเจริญของสังคมไทยจึงวนอยู่ในวงจรเดิม รัฐบาลล้มง่าย ระบบไม่มั่นคง และประชาชนรู้สึกว่าเสียงของตัวเองไม่มีค่า
ตนขอย้ำว่า วันนี้คือจังหวะที่สำคัญที่สุดในรอบหลายปี เพราะนี่คือครั้งแรกของพรรคการเมืองใหญ่ทั้ง 3พรรค นั่นคือพรรคเพื่อไทย พรรคประชาชนและพรรคภูมิใจไทย เห็นตรงกันว่าถึงเวลาแล้วที่ประเทศไทยจะต้องมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ทั้ง3พรรคร่วมกันเสนอ ร่างของตนเองและศาลรัฐธรรมนูญก็ได้ วินิจฉัยแล้วว่าการตั้งมสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ(ส.ส.ร.)นั้น สามารถทำได้ภายใต้เงื่อนไขและข้อจำกัดอย่างไรบ้าง
นางสาวขัตติยา ระบุว่า พรรคเพื่อไทยจะมีมติโหวตรับทั้ง3ร่างของทั้ง3พรรคเพื่อนำไปพิจารณาร่วมกันต่อไป แต่ในส่วนของเนื้อหาสาระสำคัญในแต่ละร่างนั้น ตนจะขอใช้ตรงนี้เพื่ออภิปรายว่าเพราะเหตุใดร่างของพรรคเพื่อไทยจึงเหมาะสมที่สุดในการที่จะได้มาได้มาซึ่งส.ส.ร.เมื่อเปรียบเทียบกับอีกสองร่าง เพราะรัฐธรรมนูญที่ดีต้องมีความเป็นประชาธิปไตย ทั้งในแง่ของที่มาและมีประสิทธิภาพในแง่ของเนื้อหาสาระ แต่การจะมีรัฐธรรมนูญที่ดีได้ต้องเริ่มจากการที่มีสภาร่าง รัฐธรรมนูญที่ดีก่อน สำหรับตนนั้นส.ส.ร.ที่ดี จะต้องมีความชอบธรรม และความเชี่ยวชาญ
สำหรับเรื่องความชอบธรรม ส.ส.ร. ตามข้อเสนอของพรรคเพื่อไทย พยายามอย่างเต็มที่ในการกำหนดให้มีที่มาที่เชื่อมโยงกับเสียงของพี่น้องประชาชน เพราะคือหัวใจสำคัญของความชอบธรรมตามระบอบประชาธิปไตย แม้ศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย ว่าห้ามไม่ให้ส.ส.ร.มาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชนก็ตาม สำหรับความเชี่ยวชาญ แม้ว่าส.ส.ร.ที่ดี จะมีแค่มิติของความชอบธรรมอย่างเดียวไม่เพียงพอ ส.ส.ร.ที่ดีจึงควรที่จะเปิดพื้นที่บางส่วน ให้มีองค์ประกอบจากผู้ทรงคุณวุฒิและผู้เชี่ยวชาญในหลากหลายสาขาให้เข้ามาร่วมกันเสนอและช่วยกันกลั่นกลองให้ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่นั้นตอบโจทย์ของประเทศมากที่สุด ซึ่งร่างของพรรคเพื่อไทยได้นำเสนอในรายละเอียดทั้งสองประเด็นไว้อย่างละเอียดและรอบคอบ
นางสาวขัตติยา ระบุว่า ร่างของพรรคภูมิใจไทยมีความเชื่อมโยงกับประชาชนค่อนข้างน้อยที่สุดเมื่อเทียบกับร่างอื่น ๆ โดยเฉพาะในเรื่องที่มาของส.ส.ร. 99 คน ซึ่งแบ่งเป็นส.ส.ร.จังหวัด 77 คน และส.ส.ร.ผู้ทรงคุณวุฒิ 22 คนทั้งหมดให้รัฐสภาคัดเลือกเอง ทำให้เสี่ยงสูงที่จะเกิดส.ส.ร.ที่ถูกแทรกแซงหรือคุมทิศทางการร่างรัฐธรรมนูญตามผลประโยชน์ของกลุ่มบางกลุ่ม ไม่ได้สะท้อนเสียงของประชาชนอย่างแท้จริง และมีโอกาสย้อนกลับไปสู่ปัญหาของรัฐธรรมนูญปี 60 ที่ขัดต่อประชาธิปไตย
ส่วนร่างของพรรคประชาชน แม้มีเจตนารมย์ชัดเจนในการคืนอำนาจให้ประชาชน แต่กลไกถ่วงดุลระหว่างคณะกรรมาธิการยกร่างกับสภาที่ปรึกษายังมีข้อจำกัดสำคัญ เพราะบทบาทของสภาที่ปรึกษาถูกกำหนดให้เพียงรวบรวมความคิดเห็นประชาชนและจัดเวทีรับฟัง แต่ไม่ได้มีอำนาจบังคับให้คณะกรรมาธิการยกร่างต้องปรับแก้ตามเสียงเหล่านั้น หรือแม้แต่ต้องชี้แจงเหตุผลหากไม่เห็นด้วย ดังนั้นเสียงของประชาชนอาจกลายเป็นเพียงข้อมูลสะท้อนในเชิงสัญลักษณ์ แต่ไม่ส่งผลต่อเนื้อหาของรัฐธรรมนูญฉบับจริง
ส่วนร่างของพรรคเพื่อไทย มีความแตกต่างและเหมาะสมครบถ้วนที่สุด เพราะให้ประชาชนมีส่วนร่วมจริง ผ่านสภาร่างรัฐธรรมนูญ 150 คน โดย 100 คนคัดเลือกจากรายชื่อ 300 คนที่ประชาชนเสนอเองทั่วประเทศ ทำให้สะท้อนเจตจำนงประชาชนแม้ไม่ใช่การเลือกตั้งโดยตรง ประกอบกับมีคณะกรรมาธิการยกร่าง 27 คน รวมสมาชิกสส. 14 คน และผู้เชี่ยวชาญ 13 คนจากหลากหลายสาขา เพื่อให้รัฐธรรมนูญมีคุณภาพทั้งด้านเนื้อหาและการบังคับใช้
กระบวนการร่างโปร่งใส ตรวจสอบได้ และรับฟังเสียงประชาชนทั่วประเทศ ทุกความเห็นถูกบันทึกเผยแพร่สู่สาธารณะ ผ่านเวทีสื่อและช่องทางออนไลน์ต่างๆ พร้อมระบบถ่วงดุลระหว่างประชาชน ผู้แทน และผู้เชี่ยวชาญจากภาคส่วนต่างๆ เพื่อให้ผลลัพธ์ของรัฐธรรมนูญสะท้อนทุกภาคส่วน และต้องผ่านประชามติก่อนประกาศใช้ จึงรับประกันว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้เกิดจากความยินยอมพร้อมใจของประชาชนจริง
พรรคเพื่อไทยยังยืนยันไม่แก้หมวดหนึ่งและสอง โดยไม่จำเป็นต้องบัญญัติข้อห้ามเพิ่มเติม เพราะมาตรา 255 และมาตรา 256(8) ได้กำหนดกระบวนการแก้ไขไว้ชัดเจนแล้ว การเขียนข้อห้ามเพิ่มเติมอาจทำให้รัฐธรรมนูญขัดกันเอง
อัญชิสา ก่อกิจฤกษ์ชัย ข่าว/เรียบเรียง
