15 ต.ค. 68 - ประธานกมธ.วิสามัญฯ ยกระดับมาตรฐานก่อสร้าง สผ. เผยผลสอบถนนสามเสนทรุดตัว พบอุโมงค์รถไฟฟ้าเคลื่อนตัวต่อเนื่อง เสี่ยงทรุดเพิ่มหากฝนตก จี้ กทม.ปิดพื้นที่ทันที พร้อมเตรียมใช้กฎหมายเอาผิดหน่วยงานและผู้รับเหมาที่เพิกเฉยไม่เข้าชี้แจงต่อคณะกมธ. 

image

            นายปลอดประสพ สุรัสวดี ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาการยกระดับมาตรฐานการก่อสร้าง มาตรฐานความปลอดภัย การเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ และการพัฒนาศักยภาพอุตสาหกรรมรับเหมาก่อสร้างอย่างเป็นระบบ สภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วย นายศุภณัฐ มีนชัยนันท์ รองประธานกมธ.และ นายปารเมศ วิทยารักษ์สรรค์ สส.กรุงเทพมหานคร พรรคประชาชน (ปชน.) แถลงข่าวผลการพิจารณากรณีถนนสามเสน บริเวณพื้นที่ก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน–ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก) หน้าโรงพยาบาลวชิรพยาบาล เกิดการทรุดตัว ว่าตลอดระยะเวลา 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา คณะกมธ.ได้สืบหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้ พบข้อมูลทางเทคนิคชัดเจนว่ามีเกิดการยุบตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีการเคลื่อนตัวของอุโมงค์ทั้งสองข้างไปทางทิศตะวันออก ระยะทางประมาณ 25 เมตร จึงส่งผลให้พื้นที่เหนืออุโมงค์ดังกล่าวมีความเสี่ยงสูง หากประชาชนสัญจรผ่าน ไม่ว่าจะเดินหรือขับรถอาจเกิดการทรุดตัวและอุบัติเหตุร้ายแรงถึงชีวิตได้ พร้อมเตือนให้กรุงเทพมหานคร (กทม.) เร่งแจ้งเตือนและปิดพื้นที่โดยด่วน เนื่องจากสภาพอากาศในช่วงนี้มีฝนตกต่อเนื่องจึงอาจเร่งให้ดินและน้ำผสมกันจนเกิดการถล่มได้

          นายปลอดประสพ ยังเปิดเผยว่า ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และบริษัทผู้รับเหมา 2 ราย คือ ช.การช่าง และ ชิโน–ไทย มาชี้แจงต่อคณะกมธ.หลายครั้ง แต่ที่ผ่านมา รฟม. ได้ส่งคนมาชี้แจงต่อคณะกมธ. 2 ครั้ง และบริษัทควบคุมการก่อสร้างส่งคนมาชี้แจง 1 ครั้ง ในขณะที่บริษัทรับเหมาก่อสร้างไม่เคยเข้ามาประชุมตามคำเชิญของคณะกมธ.เลย โดยอ้างว่าติดภารกิจและข้อจำกัดตามสัญญาไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้ ซึ่งถือเป็นพฤติกรรมที่ไม่รับผิดชอบต่อสาธารณะและมองว่าประเด็นข้อจำกัดตามสัญญานั้นเป็นคนละเรื่องกัน อย่างไรก็ตามหากบริษัทผู้รับเหมายังคงเพิกเฉย คณะกมธ.จะใช้อำนาจตามมาตรา 6 และ 14 ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) อำนาจเรียกของคณะกรรมาธิการของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา พ.ศ. 2568 ดำเนินคดีกับหน่วยงานและบริษัทที่ปกปิดข้อมูล รวมถึงเสนอให้หน่วยงานที่ได้รับความเสียหาย เช่น โรงพยาบาลวชิระพยาบาล สถานีตำรวจนครบาลสามเสน การประปา และการไฟฟ้า รวมถึง กทม. ดำเนินการแจ้งความเอาผิดต่อไป โดยย้ำว่าประเด็นสำคัญที่สุดคือความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่

            ด้านนายปารเมศ ในฐานะ สส.ในพื้นที่ กล่าวย้ำว่า ได้ติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด และได้ตั้งกระทู้ถามนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ไปเมื่อวันที่ 2 ตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ยืนยันว่าจะตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างโปร่งใส นอกจากนี้ตนเรียกร้องให้กระทรวงคมนาคมเพิ่มสัดส่วนผู้เชี่ยวชาญภายนอกและภาคประชาชนในคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องดังกล่าวเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน ขณะที่นายศุภณัฐ เรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้รับเหมาออกมาชี้แจงโดยเร็ว ระบุว่าการนิ่งเฉยไม่แสดงข้อมูลหลังเกิดเหตุถนนยุบตัวนานกว่า 3 สัปดาห์ เป็นสิ่งที่ต้องตั้งคำถามถึงศักยภาพของทั้งหน่วยงานและบริษัทผู้รับจ้าง พร้อมย้ำว่าความโปร่งใสและความรับผิดชอบคือสิ่งที่ประชาชนรอคำตอบอยู่ในขณะนี้

 

ณัฐเดช เอียดปุ่ม /ข่าว /เรียบเรียง

ประมวลผลภาพ

วิดีโอ