21 ต.ค. 68 - ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีมติเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.บริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาด พ.ศ. .... วาระที่สาม ด้วยคะแนน 309 เสียง ด้านคณะกมธ. เผย หวังให้กฎหมายฉบับนี้เป็นอาวุธ ฟื้นคืนอากาศบริสุทธิ์แก่ประชาชน

image

           การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ 26 ปีที่ 3 ครั้งที่ 32 สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง เป็นพิเศษ วันอังคารที่ 21 ต.ค. 68 ที่มีนายไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง เป็นประธานการประชุม ได้พิจารณาเรื่องที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาเสร็จแล้ว ได้แก่ ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) บริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาด พ.ศ. .... ซึ่งเป็นการพิจารณาต่อจากการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 31 สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง วันพฤหัสบดีที่ 16 ต.ค. 68 โดยที่ประชุมพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ในวาระที่สอง เริ่มพิจารณาตั้งแต่มาตรา 73 จนถึงมาตรา 93/15 และวันนี้ (21 ต.ค. 68) เริ่มพิจารณาตั้งแต่มาตรา 94 ถึงมาตรา 104 รวมถึงอัตราค่าธรรมเนียมเพื่ออากาศสะอาด ที่คณะกมธ.วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.บริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาด พ.ศ. .... สภาผู้แทนราษฎร เพิ่มขึ้นใหม่ ทั้งนี้ภายหลังจบการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวซึ่งเรียงตามลำดับมาตราแล้ว ที่ประชุมได้พิจารณาทั้ง ร่าง พ.ร.บ. ตามข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ข้อที่ 132 ซึ่งที่ประชุมไม่มีการแก้ไขถ้อยคำในร่าง พ.ร.บ. ดังกล่าว จากนั้นที่ประชุมได้ลงมติในวาระที่สาม ต่อร่าง พ.ร.บ.บริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาด พ.ศ. .... ผลปรากฏว่าที่ประชุมเห็นด้วยกับร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวด้วยคะแนนเสียง 309 เสียง ไม่เห็นด้วย ไม่มี งดออกเสียง 4 เสียง ไม่ลงคะแนนเสียง 5 เสียง และที่ประชุมมีมติเห็นด้วยกับข้อสังเกตของคณะ กมธ.

            ด้าน นายจักรพล ตั้งสุทธิธรรม ประธาน กมธ. กล่าวภายหลังการลงมติต่อร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวว่าขอขอบคุณ สส.ทุกคนที่ร่วมผลักดันร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ และเชื่อว่าร่างกฎหมายฉบับนี้จะเป็นอาวุธต่อสู้การทวงคืนอากาศบริสุทธิ์ให้กับทุกคน ส่วนลำดับต่อไปจะเป็นการพิจารณาร่างกฎหมายโดยสมาชิกวุฒิสภา หวังเป็นอย่างยิ่งว่าสิ่งที่สภาผู้แทนราษฎรได้ดำเนินการจะมีความต่อเนื่องและสอดคล้องกัน อย่างไรก็ตาม ในช่วงเดือนธันวาคม เป็นช่วงแรกของการเผาพื้นที่การเกษตรที่ส่งผลต่อค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ตนต้องการให้กฎหมายฉบับนี้เป็นนวัตกรรม เป็นกฎหมายประวัติศาสตร์ เป็นเครื่องมือให้กระทรวงต่าง ๆ นำไปบังคับใช้ เพื่อจุดหมายเดียวกันคือคนไทยมีอากาศที่บริสุทธิ์

           ขณะที่ นายแพทย์ ทศพร เสรีรักษ์ สส.จังหวัดแพร่ พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวทิ้งท้ายว่าขอขอบคุณ คณะ กมธ.ที่ทำงานอย่างเต็มที่ตลอดระยะเวลาเกือบ 2 ปี พร้อมขอบคุณ สส.ทุกคนที่ให้ความเห็นชอบร่างกฎหมายฉบับนี้ หวังเป็นอย่างยิ่งว่ากฎหมายฉบับนี้จะช่วยให้ประเทศไทยมีอากาศที่สะอาดมากขึ้น และสิ่งสำคัญคือ สส.ทุกคนต้องช่วยกันบังคับให้เป็นไปตามกฎหมาย และทำให้เมืองไทยมีอากาศสะอาดโดยเริ่มต้นจากสภา

           สำหรับร่าง พ.ร.บ.บริหารจัดการเพื่ออากาศสะอาด พ.ศ. .... มีสาระสำคัญในการกำหนดกลไกการบริหารจัดการมลพิษทางอากาศทั้งในระดับชาติและระดับพื้นที่ กำหนดให้มีการพัฒนาและบูรณาการการบริหารจัดการปัญหาของทุกภาคส่วนให้เป็นระบบและเพื่อเป็นการสอดคล้องกับหลักการพัฒนาอย่างยั่งยืน กำหนดให้มีระบบการวางแผนการดำเนินงานและกำกับดูแลเพื่อลดสาเหตุการเกิดมลพิษที่แหล่งกำเนิดรวมทั้งป้องกันการปล่อยมลพิษ ฝุ่น ควันและกลิ่น เข้าสู่สภาพแวดล้อมและชั้นบรรยากาศ พัฒนาระบบการประเมินคุณภาพอากาศระบบการเฝ้าระวังระบบเตือนภัยและระบบการจัดการในสถานการณ์วิกฤตจากภาวะมลพิษทางอากาศตลอดจนการพัฒนาองค์ความรู้เกี่ยวกับการจัดการปัญหามลพิษทางอากาศเพื่อให้เกิดอากาศสะอาดเสริมสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีมีความปลอดภัยต่อสุขภาพอันเป็นปัจจัยพื้นฐานในการดำรงชีวิตของประชาชน

ณัฐเดช เอียดปุ่ม /ข่าว/เรียบเรียง

ประมวลผลภาพ

วิดีโอ