นายชัชวาล แพทยาไทย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) จังหวัดร้อยเอ็ด พรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) ตั้งกระทู้ถามสดด้วยวาจาต่อรัฐบาล เรื่องปัญหาราคาข้าวตกต่ำ โดยระบุว่าช่วงนี้เข้าสู่ฤดูเก็บเกี่ยวข้าวเปลือกนาปีทั่วประเทศ ขณะนี้ราคาข้าวเปลือกในหลายพื้นที่ลดลงต่อเนื่อง เช่น สหกรณ์การเกษตร อำเภอเกษตรวิสัย จังหวัดร้อยเอ็ด จากเดิมกิโลกรัมละ 12.50 บาท เหลือเพียง 12.30 บาท ทำให้เกษตรกรได้รับความเดือดร้อน โดยเฉพาะพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้ ในพื้นที่ 5 จังหวัด ได้แก่ ร้อยเอ็ด มหาสารคาม สุรินทร์ ศรีสะเกษ และยโสธรที่ประกอบอาชีพหลักเพียงทำนาและเลี้ยงโค ไม่สามารถปลูกพืชชนิดอื่นทดแทนข้าวได้ เมื่อประสบปัญหาด้านราคาจึงส่งผลต่อการดำเนินชีวิตของเกษตรกรอย่างมาก
นายชัชวาล ชี้ว่าชาวนาไทยเผชิญปัญหา 3 ด้าน ได้แก่ ต้นทุนการผลิตสูง ทั้งค่าปุ๋ย ยาฆ่าแมลง และน้ำมัน ปัจจัยการผลิตไม่พร้อม ดินเสื่อมสภาพ น้ำไม่พอ ระบบชลประทานจำกัด และโรคแมลงระบาด รวมถึงราคาผลผลิตตกต่ำและผันผวน เนื่องจากเก็บเกี่ยวพร้อมกัน ข้าวล้นตลาด และอำนาจต่อรองต่ำ จึงตั้งคำถามถึงถามรัฐบาลว่ามีแนวทางใดให้ชาวนาขายข้าวได้ราคายุติธรรม เช่น ข้าวหอมมะลิ 14 บาทต่อกิโลกรัม ข้าวปทุมธานี 8 บาทต่อกิโลกรัม ข้าวเจ้าขาว 7 บาทต่อกิโลกรัม และข้าวเหนียว 10 บาทต่อกิโลกรัม
นายนเรศ ธำรงค์ทิพยคุณ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (รมช.เกษตรฯ) ได้รับมอบหมายจาก ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ชี้แจงว่ามติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2568 ได้อนุมัติมาตรการรักษาเสถียรภาพข้าวเปลือก ปีการผลิต 2568/69 รวม 3 โครงการ วงเงินรวม 61,694.98 ล้านบาท ได้แก่
1. โครงการสินเชื่อชะลอการขายข้าวเปลือกนาปี วงเงิน 45,396.73 ล้านบาท เพื่อให้เกษตรกรและสหกรณ์สามารถเก็บข้าวไว้รอขาย โดยได้รับค่าฝากเก็บรักษา 1,500 บาทต่อตัน
2. โครงการสินเชื่อเพื่อรวบรวมข้าวและสร้างมูลค่าเพิ่มโดยสถาบันเกษตร วงเงิน 15,656.25 ล้านบาท สนับสนุนสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรรวบรวมข้าวเพื่อจำหน่ายหรือแปรรูป
3. โครงการชดเชยดอกเบี้ยผู้ประกอบการค้าข้าวในการเก็บสต๊อก วงเงิน 642 ล้านบาท เพื่อช่วยเพิ่มสภาพคล่องแก่ผู้ประกอบการรับซื้อและเก็บสต๊อกข้าวเปลือก 4 ล้านตัน
นายนเรศ รมช.เกษตรฯ ย้ำว่ามาตรการปีนี้เข้มข้นกว่าปีก่อน โดยมีสหกรณ์เข้าร่วม 421 แห่ง ใน 57 จังหวัด ปริมาณข้าวเปลือกรวมกว่า 4 ล้านตัน มูลค่ากว่า 40,000 ล้านบาท ทั้งนี้มีการประชุมติดตามสถานการณ์ทุกสัปดาห์ เพื่อให้การช่วยเหลือเกษตรกรทั่วถึงและมีประสิทธิภาพมากที่สุด
ณัฐเดช เอียดปุ่ม /ข่าว/เรียบเรียง