29 ต.ค.68-สภาฯ เห็นชอบร่าง พ.ร.บ.จัดสรรที่ดินฯ ตามความเห็นชอบ กมธ.ร่วมกัน บังคับ “ผู้จัดสรร” ค้ำประกันบำรุงรักษาสาธารณูปโภค คุ้มครองลูกบ้านเต็มที่ หวังแก้ปัญหาทิ้งโครงการและเพิ่มมาตรการคุ้มครองผู้ซื้อที่ดินจัดสรร

image

        การประชุมสภาผู้แทนราษฎรที่มี นายไชยา พรหมา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง ทำหน้าที่ประธานการประชุม โดยมีวาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การจัดสรรที่ดิน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ... ด้วยคณะกรรมาธิการร่วมกัน (กมธ.) เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.การจัดสรรที่ดิน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ... ได้เสนอรายงานและร่างกฎหมายดังกล่าวเพื่อให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาและลงมติว่าจะเห็นชอบด้วยกับร่าง พ.ร.บ.ที่คณะ กมธ.ร่วมกันได้พิจารณาแล้วหรือไม่ ตามรัฐธธรรมนูญ มาตรา 137 (3) ประกอบข้อบังคับ ข้อ 137 วรรคสาม กรณีที่สภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาต่างเห็นชอบด้วยกับร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ จะได้ดำเนินการตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 81 ต่อไป แต่ถ้าสภาใดสภาหนึ่งไม่เห็นชอบด้วยไม่ว่าอีกสภาหนึ่งจะได้พิจารณาร่างพระราชบัญญัตินั้นแล้วหรือไม่ก็ให้ยับยั้งร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ไว้ก่อน ตามรัฐธธรรมนูญ มาตรา 137 (3)

        นายวิชาญ  มีนชัยนันท์ ประธาน กมธ. ร่วมกันพิจารณาร่าง พ.ร.บ.การจัดสรรที่ดินฯ กล่าวชี้แจงว่า กมธ. ได้นำผลการรับฟังความคิดเห็นและการวิเคราะห์ผลกระทบที่เกิดจากร่างกฎหมายฉบับนี้มาใช้ประกอบการพิจารณาของ กมธ. อย่างรอบคอบ โดย กมธ.ร่วมกันได้พิจารณาและแก้ไขเพิ่มเติมจากร่างแก้ไขเพิ่มเติมของวุฒิสภา และสภาผู้แทนราษฎรไม่เห็นชอบด้วยกับการแก้ไขนั้น โดยได้แก้ไขเพิ่มเติมถ้อยคำในร่างมาตรา 4 แก้ไขมาตรา 43 แห่ง พ.ร.บ.การจัดสรรที่ดิน พ.ศ. 2543 โดยให้ใช้ข้อความว่า “สาธารณูปโภคที่ผู้จัดสรรที่ดินได้จัดให้มีขึ้นเพื่อการจัดสรรที่ดินตามแผนผังและโครงการที่ได้รับอนุญาต เช่น ถนน สวน สนามเด็กเล่น ให้ตกอยู่ในภาระจำยอม เพื่อประโยชน์แก่ที่ดินจัดสรร และให้เป็นหน้าที่ชองผู้จัดสรรที่ดินที่จะบำรุงรักษาสาธารณูปโภคดังกล่าวให้มีสภาพใช้งานได้ตามปกติโดยไม่ต่ำกว่ามาตรฐานเดิมหรือเทียบเห่า และจะกระทำการใดอันเป็นเหตุให้ประโยชน์แห่งภาระจำยอมลดไปหรือเสื่อมความสะดวกมิได้ให้ผู้จัดสรรที่ดินจัดหาธนาคารหรือสถาบันการเงินมาทำสัญญาค้ำประกัน การบำรุงรักษาสาธารณูปโภคซึ่งผู้จัดสรรที่ดินได้จัดให้มีขึ้นและยัง อยู่ในความรับผิดชอบในการบำรุงรักษาของผู้จัดสรรที่ดินตามวรรคหนึ่ง ไว้กับคณะกรรมการ ในการนี้ให้นำความในมาตรา 24 มาใช้บังคับโดยอนุโลม และ (4) ในกรณีที่มีเหตุอันทำให้ธนาคารหรือสถาบันการเงินไม่อาจทำสัญญาค้ำประกันการบำรุงรักษาสาธารณูปโภคให้กับผู้จัดสรรที่ดินตามวรรคสองได้ คณะกรรมการอาจพิจารณาให้ผู้จัดสรรที่ดินนำหลักประกันอย่างอื่นมาค้ำประกันแทนได้ ทั้งนี้ หลักประกันอย่างอื่นให้เป็นไปตามระเบียบที่คณะกรรมการจัดสรรที่ดินกลางกำหนด”

         นายวิชาญ กล่าวเพิ่มเติมว่า กมธ.ร่วมกันฯ ได้พิจารณาร่างมาตรา 7 แก้ไขมาตรา 52 แห่ง พ.ร.บ.การจัดสรรที่ดิน พ.ศ. 2543 โดยใช้ข้อความว่า “ในกรณีที่ผู้จัดสรรที่ดินกระทำการใด ๆ อันเป็นเหตุให้ประโยชน์แห่งภาระจำยอมตามมาตรา 43 ลดไปหรือเสื่อมความสะดวก หรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้ผิดไปจากแผนผัง โครงการ หรือวิธีการจัดสรรที่ดินที่ได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการ ให้คณะกรรมการ คณะอนุกรรมการ หรือผู้ซึ่งคณะกรรมการมอบหมายมีอำนาจสั่งให้ผู้จัดสรรที่ดินระงับการกระทำนั้นและใกรุงรักษาสาธารณูปโภคให้มีสภาพใช้งานได้ตามปกติโดยไม่ต่ำกว่ามาตรฐานเดิมหรือเทียบเท่า หรือดำเนินการตามแผนผัง โครงการ หรือวิธีการจัดสรรที่ดินที่ได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการภายในระยะเวลาที่กำหนด” เพื่อให้มีความครอบคลุมชัดเจน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาการตีความในอนาคต คณะ กมธ.ร่วมกันได้พิจารณาร่างกฎหมายดังกล่าวเสร็จเรียบร้อยแล้วตามรายงานที่ กมธ.ร่วมกันได้เสนอต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ให้พิจารณาต่อไป

        อย่างไรก็ตาม ร่างกฎหมายฉบับนี้ ไม่มีสมาชิกลุกขึ้นอภิปราย ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ได้ลงมติผลปรากฏว่า ที่ประชุมสภาฯ มีมติเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.การจัดสรรที่ดิน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่คณะ กมธ.ร่วมกันได้พิจารณาแล้ว ด้วยคะแนนเสียงเห็นด้วย เสียง 298 เสียง ไม่เห็นด้วย ไม่มี งดออกเสียง 2 เสียง ไม่ลงคะแนน 2 เสียง

 

ณัฐพล  สงวนทรัพย์  ข่าว/เรียบเรียง

ประมวลผลภาพ

วิดีโอ