นายกัณวีร์ สืบแสง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(สส.)แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม กล่าวแสดงความกังวลต่อกรณีนายกรัฐมนตรีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือแร่หายากของโลก หรือแร่แรร์เอิร์ธ (Rare Earth Element) กับสหรัฐอเมริกา ว่า เรื่องนี้จริงๆแล้ว ทราบดีว่าไทยไม่มีการทำแรร์เอิร์ธ มีแต่แร่ดิบ เช่น ดีบุก ที่ทำแรร์เอริ์ธได้ ที่ผ่านมามีภาคประชาชน ภาคประชาสังคม ภาควิชาการในภาคเหนือ ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย ได้รับผลกระทบจากการทำเหมืองแร่แรร์เอิร์ธจากประเทศเพื่อนบ้าน คือ เมียนมา ซึ่งก่อให้เกิดมลพิษข้ามแดนเข้ามาในไทย ตนจึงรู้สึกตกใจกับการตัดสินใจของรัฐบาลไทยในเรื่องนี้ ซึ่งจากการลงพื้นที่ร่วมกับนายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อตรวจสอบปัญหาประชาชนในจังหวัดเชียงใหม่และเชียงราย พบว่ามีประชาชนในพื้นที่ลุ่มน้ำกก น้ำรวก น้ำสาย และน้ำโขง ได้รับผลกระทบจากสารปนเปื้อนในน้ำและดิน เป็นผลจากการทำเหมืองในประเทศเพื่อนบ้าน โดยปัญหานี้ยังไม่มีการแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรม
นายกัณวีร์ ตั้งคำถาม 3 ประเด็นถึงนายกรัฐมนตรี คือ 1. เหตุผลในการลงนาม MOU ทั้งที่ทราบว่าการทำเหมืองแร่หายากก่อให้เกิดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อมและประชาชนในพื้นที่ชายแดน 2. การลงนามดังกล่าว หมายความว่าประเทศไทยจะเข้ามามีส่วนร่วมในห่วงโซ่อุปทานเพื่อสนับสนุนสหรัฐฯ หรือไม่ และก่อนตัดสินใจได้หารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างครอบคลุมแล้วหรือไม่ โดยเฉพาะในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 23 ตุลาคมที่ผ่านมา 3. การลงนาม ได้สอบถามความเห็นจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้วหรือไม่ ว่าจะไม่ก่อให้เกิดปัญหาทางกฎหมายตามมา พร้อมย้ำว่า รัฐบาลควรให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหมืองแร่ข้ามแดนก่อนจะไปลงนามข้อตกลงใด ๆ กับต่างประเทศ เพราะสิ่งเหล่านี้หมายถึง ชีวิตของประชาชน ที่ต้องได้รับการคุ้มครองและฟังเสียงอย่างแท้จริง
อรพรรณ ขันทองคำ ข่าว/เรียบเรียง