ประธานรัฐสภา เดินทางเยือนรัฐสภาฮังการี ประสานความร่วมมือสองรัฐสภาทุกมิติ ส่งเสริมความสัมพันธ์แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น

            นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา และประธานสภาสถาบันพระปกเกล้า พร้อมด้วย รศ.ดร.อิสระ เสรีวัฒนวุฒิ เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้านำคณะจากรัฐสภาและสถาบันพระปกเกล้า เข้าหารือกับ ลัสโล โคเวอร์ ประธานรัฐสภาฮังการี ณ อาคารรัฐสภาฮังการี กรุงบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี ประธานรัฐสภาฮังการี กล่าวแสดงความยินดีที่ได้ต้อนรับประธานรัฐสภาไทยในการเดินทางมาเยือนรัฐสภาฮังการีอย่างเป็นทางการ พร้อมกล่าวแสดงความเสียใจต่อการสวรรคตของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ถือเป็นความสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ของประชาชนชาวไทย ขณะเดียวกันประธานรัฐสภาฮังการีได้ชื่นชมประเทศไทยในฐานะที่เป็นประเทศที่รักษาเอกราชไว้ได้เพียงชาติเดียวในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งตรงกับสิ่งที่ชาวฮังกาเรียนให้ความสำคัญในเรื่องเอกราช การปกป้องวัฒนธรรมที่สืบทอดมาอย่างยาวนานตามประวัติศาสตร์นับพันปีและจุดยืนเรื่องสันติภาพไม่สนับสนุนการสู้รบและความขัดแย้งทุกกรณี และพร้อมสนับสนุนการแก้ไขปัญหาข้อพิพาทระหว่างชายแดนไทยและกัมพูชา ที่มีการทำข้อตกลงเพื่อสร้างสันติภาพระหว่างกันเมื่อเร็ว ๆ นี้ รวมถึงการปราบสแกมเมอร์ และอาชญากรรมข้ามชาติซึ่งรัฐสภาฮังการีในฐานะ 1 ใน 8 ชาติผู้ก่อตั้งสหภาพรัฐสภา(IPU) ได้สนับสนุนข้อมติฉุกเฉินของไทยในการประชุม IPU ครั้งล่าสุด ที่นครเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส ส่วนข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) กับสหภาพยุโรป(EU) และการสมัครเข้าเป็นสมาชิกองค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ (Organisation for Economic Co-operation and Development : OECD) ฮังการีพร้อมให้การสนับสนุนรัฐบาลไทยอย่างเต็มที่ ขณะที่เรื่องทุนการศึกษารัฐบาลฮังการีมีการมอบทุนการศึกษาให้กับนักเรียนทุกประเทศรวมถึงประเทศไทย เพราะรัฐบาลฮังการีมองว่า นักเรียนที่มาเรียนฮังการีเปรียบเสมือนทูตที่จะเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างชาติต่าง ๆ กับคนฮังกาเรียน

            ด้านนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ได้กล่าวขอบคุณประธานรัฐสภาฮังการี ที่ให้การต้อนรับคณะผู้แทนไทยด้วยความอบอุ่น พร้อมระบุว่า การเดินทางเยือนรัฐสภาฮังการีในครั้งนี้ มีรองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรที่กำกับดูแลงานด้านวิชาการและด้านอาคารสถานที่เดินทางร่วมคณะมาด้วย โดยมีความประสงค์มาดูงานด้านวิชาการ ห้องสมุด พิพิธภัณฑ์ของรัฐสภาฮังการี รวมถึงการออกแบบอาคารและการใช้ประโยชน์ของตัวอาคาร พร้อมกล่าวว่า ในนามของรัฐสภาไทยพร้อมแสดงเจตจำนงสนับสนุนฮังการีทุกเรื่องพร้อมชื่นชมจุดยืนของฮังการีในเรื่องต่าง ๆ โดยเฉพาะการปกป้องรักษาอธิปไตยและวัฒนธรรมของตน พร้อมแสดงความเข้าใจฮังการีเกี่ยวกับนโยบายด้านผู้อพยพตามแนวชายแดน รวมทั้งขอให้ฮังการีสนับสนุนการดำเนินงานของเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงบูดาเปสต์ในการเชิญชวนนักลงทุนเข้ามาลงทุนยังประเทศฮังการี รวมถึงธุรกิจนวดแผนไทย เพราะปัจจุบันเป็นสังคมผู้สูงอายุ การนวดไทยเป็นการนวดเพื่อสุขภาพซึ่งที่รัฐสภาไทย มีบริการนวดแผนไทย ให้กับสมาชิกและบุคลากรเมื่อมีเวลาว่าง ซึ่งหากประธานรัฐสภาของฮังการีเดินทางไปเยือนรัฐสภาไทย ตนจะพาไปใช้บริการดังกล่าว ที่อาคารรัฐสภา นอกจากนี้ประธานรัฐสภายังกล่าวถึงปัญหาชายแดนไทยและกัมพูชาว่า ตลอดช่วงที่ผ่านมาไทยยึดแนวทางสันติภาพและมนุษยธรรมล่าสุดเพิ่งมีการตกลงแก้ไขปัญหาไทย-กัมพูชา ที่ประเทศมาเลเซียโดยมีประธานาธิบดีสหรัฐเป็นคนกลาง ซึ่งไทยปฏิบัติตามข้อตกลงมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของทุ่นระเบิดหรือ ข้อกำหนดตามข้อตกลงต่าง ๆ 

            ทั้งนี้ ภายหลังการหารือได้มีการแถลงข่าวร่วมกัน โดยประธานรัฐสภาฮังการีย้ำอีกครั้งว่าจะสนับสนุนไทยทุกเรื่องตามนโยบายด้านการต่างประเทศ ที่เชื่อมความสัมพันธ์กับภูมิภาคตะวันออกซึ่งไทยเป็นประเทศที่ฮังการีมีความสัมพันธ์แนบแน่นที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ส่วนเรื่องอาหารไทย มวยไทย และการส่งเสริมการค้าการลงทุน รัฐสภาฮังการีพร้อมให้การสนับสนุน โดยบรรยากาศช่วงท้ายของการแถลงข่าว ต่อสื่อมวลชนที่รัฐสภาฮังการี ประธานรัฐสภาของไทย ระบุว่า ตนเคยเป็นอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม หลังจากนี้จะพยายามผลักดันให้มีสายการบินบินตรงจากประเทศไทยสู่กรุงบูดาเปสต์ประเทศฮังการีเพราะหากมีสายการบินตรง จะช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์ในหลายด้านไม่ว่าจะเป็นการค้าการลงทุนการท่องเที่ยว รวมถึงด้านการศึกษา พร้อมอวยพรให้พรรครัฐบาลของนายลัสโล โคเวอร์ ประธานรัฐสภาฮังการี ชนะการเลือกตั้งในเดือนเมษายนปีหน้า หลังจากนั้นจะได้ใช้เที่ยวบินตรงบินไปเยือนประเทศไทยในฐานะแขกของรัฐสภาไทย ภายหลังการแถลงข่าวเสร็จสิ้นคณะของประธานรัฐสภาไทยได้มีโอกาสในการเยี่ยมชมรัฐสภาฮังการซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำดานูบและถูกขนานนามว่าเป็นรัฐสภาที่สวยที่สุดในโลก โดยประธานรัฐสภาฮังการีได้นำคณะประธานรัฐสภาไทยชมมงกุฎเซนต์สตีเฟน( The Holy Crown of Hungary ) สัญลักษณ์ประจำชาติที่สำคัญที่สุดของฮังการีและถูกเก็บรักษาไว้ในอาคารรัฐสภาที่กรุงบูดาเปสต์ มงกุฎนี้ตั้งอยู่บนหมอนกำมะหยี่สีแดงในตู้กระจก และมีทหารคอยอารักขาตลอดเวลา พร้อมกับนำประธานรัฐสภาของไทย ชมศิลปะ การออกแบบ ของรัฐสภาฮังการี ที่มีทั้งรูปปั้นผู้ออกแบบอาคารรัฐสภาฮังการี และเครื่องเคลือบที่ทำโดยธุรกิจเครื่องเคลือบท้องถิ่นดั้งเดิมของคนฮังการี

            จากนั้น ในช่วงค่ำ นายอิสวาน ยาคอบ รองประธานรัฐสภาฮังการี เป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารค่ำให้กับคณะประธานรัฐสภาของไทย โดยมี Mr.Csaba Gyuriza (ชอ บอ กูลิซา) อธิการบดีมหาวิทยาลัยฮังการี ด้านเกษตรกรรมและวิทยาศาสตร์ชีวิตร่วมให้การรับรองซึ่งโดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความอบอุ่น

สำนักประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ข้อมูล/เรียบเรียง