โดย
นายชัยชนะ เดชเดโช สมาชิกรัฐสภา อภิปรายมาตรา 256/26 ในการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ..) พุทธศักราช .... ย้ำว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้คือการแสวงหาทางออกร่วมกันของสังคมไทย บนจุดยืนที่มั่นคงของพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งข้อเสนอหลักในการปรับโครงสร้างกระบวนการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญ ดังนี้ ประเด็นที่ 1 โครงสร้างการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญใหม่ คณะกรรมาธิการ ได้เปลี่ยนแปลงรูปแบบองค์กรจัดทำร่างฯ จากสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.)ที่มาจากการเลือกตั้งโดยตรง มาเป็นระบบคณะกรรมการที่คัดเลือกโดยรัฐสภา จำนวน 2 ชุด ชุดละ 35 คน การใช้ระบบคณะกรรมการสรรหาจะช่วยให้ได้บุคคลที่มีความเชี่ยวชาญด้านกฎหมาย และเทคนิคการยกร่างที่รัดกุม ลดความเสี่ยงจากเนื้อหาที่สุดโต่งทางการเมือง และประหยัดงบประมาณ ซึ่งการคัดเลือกจะเข้มข้นขึ้น โดยมาตรา 256/4 ได้เพิ่มข้อห้ามผู้ที่ถูกเพิกถอนหรือระงับสิทธิเลือกตั้งเข้ามาเป็นกรรมาธิการ เพื่อให้ผู้ร่างรัฐธรรมนูญต้องเป็นผู้มีความสุจริตและน่าเชื่อถือ ประเด็นที่ 2 พรรคประชาธิปัตย์ยืนยันชัดเจนว่า ห้ามแก้ไขหมวด 1 (บททั่วไป) และหมวด 2 (พระมหากษัตริย์) ซึ่งถือเป็นหลักการที่พรรคผลักดันจนถูกบรรจุในมาตรา 256/26 (1) เพื่อคุ้มครองรูปแบบรัฐและหลักการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขให้มั่นคง การกำหนดข้อห้ามนี้คือ พื้นที่ปลอดภัย ที่ช่วยลดความขัดแย้งและรักษาเสถียรภาพในกระบวนการยกร่างรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ประเด็นที่ 3 จริยธรรมทางการเมืองต้องเป็นบรรทัดฐานใหม่ โดยเสนอให้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่กำหนดมาตรฐานจริยธรรมของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และผู้บริหารองค์กรอิสระให้ชัดเจน พร้อมกลไกดำเนินการเมื่อมีผู้ฝ่าฝืน นอกจากนี้ ให้มีการร่างกฎหมายเพื่อกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นอย่างชัดเจน
นายชัยชนะ สรุปว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ ภายใต้การพิจารณาของกรรมาธิการ ได้สร้างสมดุล 3 เรื่องสำคัญ คือ ความมั่นคงของสถาบันหลักของชาติ ความเป็นประชาธิปไตยที่สุจริต และประสิทธิภาพและความรอบคอบของกลไกยกร่าง ทั้งหมดคือหลักที่พรรคประชาธิปัตย์ยืนหยัดในการพิจารณาครั้งนี้
อรพรรณ ขันทองคำ ข่าว/เรียบเรียง
