นายแพทย์เปรมศักดิ์ เพียยุระ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) กล่าวถึงความคืบหน้าคดีฮั้วเลือก สว. ภายหลังกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) สรุปสำนวนคดีกรณีการสมคบกันกระทำความผิดฐานฟอกเงินและอั้งยี่ ตามประมวลกฎหมายอาญาและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยพบเส้นทางการเงินของบุคคล 8 ราย ซึ่งในจำนวนนี้เป็นสมาชิกวุฒิสภา 2 ราย ว่า ขณะนี้ตนรับทราบข้อมูลจากรายงานข่าวเป็นหลัก และยังไม่ได้เห็นรายละเอียดพยานหลักฐานทั้งหมด จึงเห็นว่าสังคมควรติดตามการดำเนินการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด
นายแพทย์เปรมศักดิ์ ตั้งข้อสังเกตว่า การดำเนินคดีที่ปรากฏรายชื่อผู้ถูกกล่าวหาเพียงบางราย อาจยังไม่สะท้อนภาพรวมของกระบวนการสอบสวนทั้งหมด เนื่องจากก่อนหน้านี้มีการเรียกสอบสวนบุคคลจำนวนมากกว่า 200 คน การสรุปผลในวงจำกัดจึงอาจทำให้เกิดข้อสงสัยในสังคมถึงความครบถ้วนของกระบวนการบังคับใช้กฎหมาย พร้อมระบุว่า การพิจารณาคดีเป็นหน้าที่ของกระบวนการยุติธรรม ซึ่งควรดำเนินไปตามพยานหลักฐานและหลักนิติธรรมอย่างเคร่งครัด เพื่อให้เกิดความชัดเจนและเป็นที่ยอมรับของประชาชน แต่ในทางปฏิบัติมีหลายประเด็นที่ต้องตั้งข้อสงสัย เช่น กรณีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ดีเอสไอที่เป็นผู้สอบสวนคดีดังกล่าว ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษา และยังมอบภารกิจอื่นเพิ่มเติม ทำให้คดีนี้นิ่งไป ไม่มีความคืบหน้า จึงขอย้ำว่าการดำเนินการใด ๆ ควรตั้งอยู่บนพื้นฐานของความเป็นธรรมและมาตรฐานเดียวกัน
นายแพทย์เปรมศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ตนเห็นใจเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินคดีเรื่องดังกล่าวที่ต้องเจอกลไกทำให้การทำงานต้องชะลอ เพราะหากกระบวนการตรวจสอบสามารถเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง โปร่งใส และให้ความกระจ่างแก่สังคม จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นต่อระบบการเมืองและการทำหน้าที่ขององค์กรที่เกี่ยวข้อง พร้อมเสนอให้ทุกฝ่ายเปิดโอกาสให้กระบวนการยุติธรรมทำงานอย่างเต็มที่ โดยไม่เร่งสรุปผลล่วงหน้า
อรพรรณ ขันทองคำ ข่าว/เรียบเรียง