23 ธ.ค. 68 - ประธานกมธ.การทหารและความมั่นคงของรัฐ วุฒิสภา ระบุสถานการณ์สู้รบชายแดนไทย - กัมพูชายังยืดเยื้อ เดินหน้าบูรณาการมาตรการควบคุมการส่งออกน้ำมันเชื้อเพลิงและยุทธภัณฑ์ตามมติ สมช. พร้อมเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องชี้แจง หวังเพิ่มประสิทธิภาพการคุ้มครองความมั่นคงของชาติ และลดผลกระทบต่อประเทศอย่างเป็นรูปธรรม

image

          พลเอก สวัสดิ์ ทัศนา ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การทหารและความมั่นคงของรัฐ วุฒิสภา พร้อมคณะกมธ. กล่าวถึงแถลงการณ์เรื่องการบูรณาการมาตรการควบคุมการส่งออกน้ำมันเชื้อเพลิงและยุทธภัณฑ์ ระบุว่าปัจจุบันสถานการณ์สู้รบชายแดนไทย - กัมพูชา ซึ่งกัมพูชาเป็นฝ่ายเริ่มก่อน ยืดเยื้อมาเป็นระยะเวลาพอสมควรแล้ว ทางฝ่ายไทยพยายามที่จะยุติการสู้รบด้วยการทำลายกองทัพกัมพูชาให้สิ้นสภาพไม่เป็นภัยคุกคามของประเทศไทยอีกต่อไป โดยให้ฝ่ายไทยสูญเสียน้อยที่สุด ทั้งนี้คณะกมธ.ยังคงติดตามสถานการณ์ด้านความมั่นคงอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่องในฐานะที่มีบทบาทสำคัญนอกเหนือจากด้านนิติบัญญัติ ได้แก่ การตรวจสอบการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงของหน่วยงานต่าง ๆ การให้คำปรึกษาและข้อเสนอแนะในประเด็นที่เกี่ยวกับความมั่นคงของชาติ สืบเนื่องจากมติสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2568 ที่เห็นชอบให้กำหนดมาตรการระงับการขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิงและสินค้ายุทธปัจจัยไปยังกัมพูชา โดยยกระดับการเฝ้าระวัง ให้ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) ควบคุมและเฝ้าระวังเรือพาณิชย์ เรือประมง และเรือสนับสนุนที่มีพฤติกรรมลักลอบขนส่งสินค้า พร้อมประกาศให้พื้นที่ทะเลอาณาเขตโดยรอบท่าเรือกัมพูชาเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยสูง เพื่อแจ้งเตือนเรือที่สัญจรไปมา รวมถึงกำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำกับดูแลผู้ค้าน้ำมันให้หยุดการส่งออกน้ำมันไปยังกัมพูชาอย่างใกล้ชิด 

          ในการประชุมคณะกมธ.วันนี้ (23 ธ.ค. 68) ได้เชิญผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าชี้แจงข้อมูลและให้ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการควบคุมการส่งออกน้ำมันเชื้อเพลิงและยุทธภัณฑ์ ได้แก่ กระทรวงพลังงาน กรมศุลกากร ศรชล. และบริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) เพื่อร่วมกันรับทราบปัญหาและพิจารณาหาแนวทางที่เหมาะสม โดยประเด็นสำคัญที่คณะกมธ.ต้องการทราบ อาทิ การกำกับดูแลของกระทรวงพลังงานในการส่งออกน้ำมันให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ และเงื่อนไขที่กำหนด รวมถึงกระบวนการออกใบอนุญาตส่งออกน้ำมันของกรมธุรกิจพลังงาน ขณะที่บริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) ถูกขอให้ชี้แจงเกี่ยวกับข้อกำหนดการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมผ่านผู้แทนจำหน่าย การส่งออกน้ำมันไปยังกัมพูชาและลาว ตลอดจนการดำเนินกิจการของบริษัท ปตท.(กัมพูชา) จำกัด ส่วนด้านกรมศุลกากร ต้องการทราบข้อมูลในฐานะผู้ดูแลกระบวนการปฏิบัติ ณ จุดผ่านแดน เพื่อให้การส่งออกน้ำมันเป็นไปอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และป้องกันการสูญเสียรายได้ของประเทศ โดยเฉพาะข้อมูลเกี่ยวกับปริมาณการส่งออกน้ำมันไปยังกัมพูชาและลาวผ่านจุดผ่านแดนต่าง ๆ ส่วนศรชล. ชี้แจงขอบเขตหน้าที่ อำนาจ และความรับผิดชอบตามมติสภาความมั่นคงแห่งชาติ ทั้งนี้คณะกมธ.จะนำข้อมูล ประเด็นปัญหา และข้อเสนอแนะจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปพิจารณาอย่างรอบคอบ เพื่อบูรณาการความร่วมมือในการควบคุมการส่งออกน้ำมันเชื้อเพลิงและยุทธภัณฑ์ให้มีประสิทธิภาพและเกิดผลเป็นรูปธรรม

         อย่างไรก็ตาม ขอแสดงความเสียใจต่อทหารหาญที่เสียสละเพื่อชาติ พร้อมขออัญเชิญพระสยามเทวาธิราชคุ้มครองทหาร ข้าราชการ จิตอาสา และประชาชน ให้สามารถปฏิบัติภารกิจปกป้องประเทศชาติได้อย่างปลอดภัย ภายใต้หลัก สามัคคี คือ พลัง

 

ณัฐเดช เอียดปุ่ม ข่าว/เรียบเรียง

ประมวลผลภาพ

วิดีโอ