20 ธ.ค. 68 - “เทวฤทธิ์” ยื่นญัตติขอให้วุฒิสภาชะลอกระบวนการให้ความเห็นชอบ ป.ป.ช. และตั้ง กมธ.ตรวจสอบประวัติฯ กกต. ออกไปก่อน ในการประชุมสมัยวิสามัญที่คาดว่าจะมีขึ้นในสัปดาห์หน้า เหตุ สว. มีส่วนได้ส่วนเสีย

image

          นายเทวฤทธิ์ มณีฉาย สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ให้สัมภาษณ์ถึงการทำงานของวุฒิสภาหลังมีพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร ว่า ร่างกฎหมายที่ค้างอยู่ทั้งในฝั่งสภาฯ และวุฒิสภา ถือว่าถูกแช่ไว้อยู่ ประมาณ 106 ฉบับ โดยสภาพถูกแช่ไว้ ถ้าหากว่ามีรัฐบาลใหม่และจากการประชุมสภาฯ ครั้งแรก ภายใน 60 วัน คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติไปขอให้สภานั้น ๆ ดำเนินการต่อร่างกฎหมายฉบับต่าง ๆ ได้ ก็จะทำให้ไม่ตกไป ดังนั้น คิดว่าถ้าภาคประชาชนหรือผู้ที่เห็นว่าร่างกฎหมาย เช่น ร่างพระชราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) บริหารจัดการอากาศสะอาดเพื่อสุขภาพ พ.ศ. …. ที่อยู่ในชั้นกรรมาธิการของวุฒิสภา ร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่อยู่ในชั้นกรรมาธิการของสภาฯ เป็นประโยชน์ ในช่วงเวลานี้ก็คงต้องไปรณรงค์กับพรรคการเมือง เพื่อให้คำมั่นว่าถ้าเป็นรัฐบาลจะผลักดันให้ร่างกฎหมายเหล่านี้เดินหน้าต่อไปได้ ไม่เช่นนั้นก็เป็นที่น่าเสียดาย โดยเฉพาะร่างกฎหมายอากาศสะอาดที่มีหลายมาตรา ใช้เวลานการพิจารณษมาอย่างยาวนาน หากไปนับหนึ่งใหม่ คงจะใช้เวลานานหลายปีกว่าจะได้กลับเข้ามาสู่การพิจารณาใหม่
          ส่วนการประชุมของวุฒิสภานั้น จะไม่มีการประชุมวุฒิสภา เดิมทีนัดหมายการประชุมในวันจันทร์และวันอังคารที่ผ่านมา แต่เมื่อมีการยุบสภา ทำให้ต้องงดการประชุมไป แต่ยังสามารถประชุมวิสามัญเพื่อพิจารณาเรื่องของผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญได้ โดยตามวาระการประชุมเดิมในวันอังคารที่ผ่านมา มีวาระการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติ ความประพฤติและพฤติกรรมทางจริยธรรมของบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จำนวน 2 คน และให้ความเห็นชอบบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จำนวน 2 คน ซึ่งคาดว่าจะมีการเปิดประชุมวิสามัญเพื่อพิจารณาประเด็นดังกล่าวในสัปดาห์หน้า โดยตนได้ยื่นญัตติต่อประธานวุฒิสภา เพื่อขอให้ชะลอทั้ง 2 กระบวนการออกไปก่อน อีกทั้งทราบว่าขณะนี้อยู่ระหว่างการสรรหาบุคคลผู้สมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ที่จะมาแทนนายนครินทร์ เมฆไตรรัตน์ อีกด้วย
          นายเทวฤทธิ์ มองว่า ทั้ง 3 องค์กร (กกต. ป.ป.ช. ศาลรัฐธรรมนูญ) สว. อยู่ในภาวะที่มีส่วนได้ส่วนเสีย ซึ่งไม่ใช่เพียง 1-2 คน แต่เป็นจำนวนมากเกินกว่ากึ่งหนึ่ง หมายความว่าความเห็นของ สว. จะมีนัยยะในการให้ความเห็นชอบหรือไม่ให้ความเห็นชอบต่อบุคคลนั้น ๆ ที่จะไปดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระดังกล่าว ซึ่งทั้ง 3 องค์กรอยู่ในภาวะที่ สว. จำนวนมากเข้าไปเกี่ยวข้อง ทั้งในฐานะผู้ถูกร้อง ผู้ถูกตรวจสอบ และผู้ร้อง อย่างป.ป.ช. มี สว. เกือบ 100 คน ลงชื่อร้องให้ตรวจสอบ พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และ พันตำรวจตรี ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ซึ่งหากจะลงมติเห็นชอบอีก 2 คน ไปดำรงตำแหน่งเป็น ป.ป.ช. ก็เหมือนกับนักฟุตบอลที่เลือกผู้ตัดสิน ซึ่งตนคิดว่ามันไม่ยุติธรรม ต่อให้ จะมีเจตนาอันบริสุทธิ์ ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เลย ก็อาจทำให้ประชาชนไม่เชื่อมั่นกับกระบวนการ ซึ่งไม่เพียงแต่จะกระทบต่อการทำงานของ สว. แต่จะกระทบต่อองค์กรอิสระที่จะต้องทำงานไปอีก 7 ปี คิดว่าจะทำให้สูญเสียความเชื่อมั่นศรัทธาต่อกลไกเหล่านี้ ซึ่งมีบทบาทและมีอำนาจสำคัญมาก ดังนั้น ตนจึงยื่นชะลอไว้ก่อน

ทัดดาว ทองอิ่ม ข่าว / เรียบเรียง

ประมวลผลภาพ

วิดีโอ