4 ธ.ค. 66 - ประธานอนุกรรมการรับฟังความเห็นประชาชนเกี่ยวกับแนวทางในการทำประชามติ เพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญฯ เผยเตรียมแจกแบบสอบถามรับความเห็น สส. - สว. หลังเปิดสมัยประชุมสภา คาดนำเสนอผลต่อที่ประชุมคณะใหญ่สัปดาห์สุดท้ายของปี 66 

             นายนิกร จำนง ประธานคณะอนุกรรมการ รับฟังความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับแนวทางในการทำประชามติ เพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2560 เปิดเผยก่อนเข้าประชุมร่วมกับคณะอนุกรรมาธิการ (อนุกมธ.) พิจารณาศึกษาการจัดทำข้อเสนอระบบการเลือกตั้งและแนวทางการทำงานของสภาร่างรัฐธรรมนูญที่มาจากการเลือกตั้ง สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งมีนายพริษฐ์ วัชรสินธุ เป็นประธานอนุกมธ. ว่าที่ประชุมจะรับฟังข้อเสนอเกี่ยวกับประเด็นสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญที่ยังมีความเห็นต่างกันเรื่องของสัดส่วนการได้มาซึ่งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) ว่านอกจากส่วนที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนแล้ว ส่วนที่เหลือจะมาจากนักวิชาการ เช่นเดียวกับการร่างรัฐธรรมนูญฉบับปี 40 หรือไม่อย่างไร นอกจากนี้กล่าวถึงความคืบหน้าการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญด้วยว่า วันที่ 7 ธ.ค. นี้ นายเจือ ราชสีห์ และนายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท ในฐานะคณะอนุกรรมการฯ จะนำทีมลงพื้นที่จังหวัดสงขลา เพื่อรับฟังความเห็นประชาชน หลังจากนั้นเมื่อเปิดสมัยประชุมแล้ว ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันที่ 13-14 ธ.ค. และการประชุมวุฒิสภา วันที่ 18-19 ธ.ค. นี้ จะได้แจกแบบสอบถามเพื่อรับฟังความเห็นจากทั้ง สส.และ สว. โดยวันนี้ (4 ธ.ค. 66) ตนได้ส่งหนังสือขออนุญาตแจกแบบสอบถามต่อสมาชิกทั้งสองสภา ไปยังนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร และศาสตราจารย์พิเศษ พรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้มีประเด็นคำถามที่สอบถาม สส. และ สว. อาทิ เห็นด้วยหรือไม่กับการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ทั้งฉบับ เห็นด้วยหรือไม่กับกรณีการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นรายมาตรา เนื้อหาส่วนใดบ้างที่ควรแก้ไข และที่มาของสสร.ควรมาจากการเลือกตั้งของประชาชนหรือสัดส่วนนักวิชาการ และผู้เชี่ยวชาญด้วย อย่างไรก็ตามหลังการรับฟังความคิดเห็นจาก สส.และสว. แล้ว วันที่ 21 ธ.ค. นี้ จะมีการประชุมคณะอนุกรรมการ เพื่อสรุปผลการดำเนินการ ก่อนจะรายงานต่อที่ประชุมคณะใหญ่ซึ่งมีนายภูมิธรรม เวชชยชัย รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของเดือนธ.ค. ต่อไป 

          นายนิกร กล่าวถึงกรณีการแก้ไขพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการออกเสียงประชามติ พ.ศ.2564 ด้วยว่าตนได้ตัดเรื่องเสียงเกินกึ่งหนึ่งสองชั้นออกไปแล้ว โดยลำดับถัดไปจะนำคณะเข้าหารือกับเอกอัครราชทูตสวิตเซอร์แลนด์ วันที่ 11 ธ.ค. เพื่อรับฟังแนวทางการทำประชามติของประเทศสวิตเซอร์แลนด์เนื่องจากเป็นประเทศที่มีการทำประชามติรับฟังความเห็นจากประชาชนมากที่สุด และเป็นประเทศที่ใช้ระบบประชาธิปไตยทางตรง ส่วนข้อถามถึงกรณีที่มีพรรคการเมืองต้องการเสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ม.112 ว่าเห็นด้วยหรือไม่ นายนิกร กล่าวว่า ตนยึดแนวทางของพรรคชาติไทยพัฒนา โดยจุดยืนเดิมคือไม่สนับสนุนการนิรโทษกรรมความผิดที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายอาญามาตรา 112 หรือความผิดร้ายแรงที่เกี่ยวข้องกับความเสียหายของบุคคลภายนอก รวมทั้งความผิดในคดีอาญา ในกรณีนี้ไม่สามารถเกิดขึ้นได้เพียงชั่วข้ามคืนต้องค่อยเป็นค่อยไปในการดำเนินการ

 

ณัฐเดช เอียดปุ่ม /ข่าว /เรียบเรียง 

ประมวลผลภาพ

วิดีโอ