15 ม.ค.66 - กมธ.วิสามัญการพิทักษ์และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ วุฒิสภา หารือตัวแทนเหล่าทัพและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ถึงแนวทางพิทักษ์และปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ เพื่อสร้างความมั่นคงของชาติ พร้อมย้ำกองทัพต้องกำหนดกลยุทธ์การสื่อสารดิจิทัล หวังสร้างทัศนคติเชิงบวกให้กับคนรุ่นใหม่มีจิตสำนึกความเป็นชาติที่สร้างสรรค์

image

        นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญการพิทักษ์และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ วุฒิสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม กมธ. โดยมีวาระพิจารณา “ประชุมหารือและแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็น ในการพิทักษ์และปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์” ร่วมกับที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ประจำคณะ กมธ.วิสามัญ และผู้แทนเหล่าทัพประกอบด้วย ปลัดกระทรวงกลาโหม ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้บัญชาการทหารบก ผู้บัญชาการทหารอากาศ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และผู้แทนผู้บัญชาการทหารเรือ ณ ห้องประชุม หมายเลข 406 – 407 ชั้น 4 อาคารรัฐสภา ฝั่งสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา

        นายสุวพันธุ์ กล่าวภายหลังสรุปแผนงานการสานต่อการพิทักษ์และปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ พร้อมปัญหาและอุปสรรครวมถึงการดำเนินงานที่ผ่านมา และแผนงานการสานต่อการพิทักษ์และปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ของคณะ กมธ.วิสามัญ ว่า การประชุมคณะ กมธ.วิสามัญในครั้งนี้ เป็นการหารือแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็น ข้อพิจารณา และข้อเสนอแนะร่วมกันในการพิทักษ์และปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยที่ประชุมได้รับทราบข้อมูลการดำเนินงานของเหล่าทัพและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการพิทักษ์และปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ พร้อมทั้งวิเคราะห์แนวทางการสร้างความมั่นคงให้กับสถาบันหลักของชาติ รวมถึงหารือถึงปัญหา ข้อเสนอแนะ เพื่อให้เกิดการบูรณาการความร่วมมือด้านการพิทักษ์และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ในทุกภาคส่วนต่อไป

        นายจเด็จ  อินสว่าง รองประธาน กมธ.วิสามัญฯ คนที่สอง กล่าวว่า เหล่าทัพ และเครือข่ายความมั่นคงของกองทัพ มีบุคลากรจำนวนมาก และมีสถานศึกษาสังกัดกองทัพ ดังนั้น กองทัพควรเร่งสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับการพิทักษ์และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์กับทหารที่เป็นคนรุ่นใหม่ หรืออยู่ในช่วงวัยรุ่น ก็จะช่วยให้เกิดเครือข่ายการสื่อสารต่อไปยังสาธารณชนในวงกว้างได้ ดังนั้น กองทัพต้องใช้เครือข่ายเหล่านี้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด รวมทั้งการสร้างความรู้สึกในความเป็นชาตินิยมที่สร้างสรรค์ (Creative Nationalism) เช่น การติดธงชาติตามบ้านเรือน เป็นต้น

        พลเอกพหล  สง่าเนตร สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ในฐานะที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ กมธ. กล่าวว่า ปัจจุบันปัญหาความไม่จงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์นั้นเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและเป็นเรื่องที่น่าวิตกกังวล ดังนั้น กองทัพต้องสร้างจิตวิญญาณให้คนรุ่นใหม่พิทักษ์และเทินทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยปลูกฝังวิธีคิดเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์แบบใหม่ โดยใช้ภาคการศึกษา ภาคความมั่นคง และภาคประชาสังคม ร่วมมือกันจัดกิจกรรมหรือโครงการให้คนแต่ละช่วงวัย หรือมีที่มาที่แตกต่างกันได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันอย่างมีเหตุผลและรอบด้าน จะทำให้เกิดความร่วมมือกันในการอนุรักษ์คุณค่าของสังคมไทยด้วยวิธีคิดแบบใหม่ได้

        นายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม กมธ. กล่าวว่า ปัจจุบันการสื่อสารในยุคดิจิทัล ตนมีข้อห่วงใยประเด็นเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยเหล่าทัพต้องเร่งสร้างค่านิยมเชิงบวก รวมทั้งหลังจากนี้ รัฐบาลจะดำเนินการ 3 เรื่องที่สำคัญ คือ การทำประชามติแก้ไขรัฐธรรมนูญ การเลือก สว.ใหม่ และการเลือกตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) ซึ่งทั้งหมดนี้จะนำไปสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ซึ่งมีหลายประเด็นที่มีแนวโน้มอาจทำให้เกิดความขัดแย้งในประเทศ ดังนั้น เหล่าทัพจำเป็นต้องติดตามสถานการณ์ความมั่นคงอย่างใกล้ชิด

        พลเอก สนิธชนก  สังขจันทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม ในฐานะที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ กมธ. กล่าวว่า กองทัพมีกระบวนการคัดกรองบุคลากรเข้าสู่การรับราชการ โดยมีการสอบถามทัศนคติที่เน้นย้ำต้องเป็นผู้ยึดมั่นในสถาบันพระมหากษัตริย์ ทั้งนี้ ตนยินดีรับข้อเสนอของ กมธ. ในการสร้างเครือข่ายพิทักษ์สถาบันพระมหากษัตริย์ให้มีความเข้มแข็ง อย่างไรก็ตาม กระทรวงศึกษาธิการ ควรจัดทำหลักสูตรการเรียนการสอนที่มีเนื้อหาปลูกฝังสถาบันพระมหากษัตริย์ และควรมีการส่งเสริมให้เยาวชนได้มีโอกาสทัศนศึกษาในสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ชาติไทยด้วย

        พลเอก ทรงวิทย์  หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และในฐานะที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ กมธ. และ กล่าวว่า ทุกเหล่าทัพต้องแก้ไขความเหลื่อมล้ำภายในกองทัพให้ได้ ก่อนที่จะนำไปสู่การพิทักษ์สถาบันพระมหากษัตริย์ เพราะปัจจุบันทหารรุ่นใหม่มองเรื่องปัจเจกบุคคลมากกว่าอุดมการณ์ ส่วนงบประมาณในการสื่อสารสถาบัน ควรมีจุดรวมเพื่อให้สามารถดำเนินการได้อย่างสอดคล้องกัน ส่วนการสื่อสารเรื่องสถาบันพระมหากษัตริย์ในสื่อสังคมออนไลน์ เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องมีการศึกษา เพราะเนื้อหาเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์เข้าถึงประชาชนได้น้อยมาก

        พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ และในฐานะที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ กมธ. กล่าวว่า กองทัพอากาศได้จัดกิจกรรมให้เด็กและเยาวชนได้มีพื้นที่แสดงออกเพื่อให้เกิดความไว้วางใจ โดยกองทัพอากาศใช้คนรุ่นใหม่ในกองทัพอากาศเป็นตัวแทนในการสื่อสารเพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องเรื่องการมีระเบียบวินัยในรั้วทหารไปสู่สื่อสังคมออนไลน์ ทั้งนี้ ตนเห็นด้วยกับการจัดทำหลักสูตรเรื่องสถาบันพระมหากษัตริย์ของกระทรวงศึกษาธิการ เพราะถือว่าเป็นต้นน้ำในการสร้างความเข้าใจในเรื่องนี้ ส่วนเหล่าทัพนั้น ยังถือเป็นปลายน้ำ ดังนั้น ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันจึงจะทำให้สังคมไทยเกิดความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์

        นายเกษมสันต์  วีระกุล ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ กมธ. กล่าวว่า เหล่าทัพยังขาดแม่ทัพที่จะเป็นผู้กำหนดยุทธศาสตร์ในการสื่อสารเรื่องสถาบันพระมหากษัตริย์ของหน่วยงานต่าง ๆ ไปสู่ประชาชน โดยเฉพาะปัจจุบันที่เป็นการสื่อสารแบบดิจิทัล เหล่าทัพจำเป็นต้องมีผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านการสื่อสารเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ไปยังกลุ่มเป้าหมาย เพื่อให้เกิดการมีส่วนร่วมในโลกออนไลน์ที่ทันต่อสถานการณ์

 

ณัฐพล สงวนทรัพย์ ข่าว/เรียบเรียง

ประมวลผลภาพ

วิดีโอ