1 พ.ค.67 – รองเลขาธิการพรรคไทยสร้างไทย ขอรัฐบาลทบทวนโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ชี้ ไม่ตอบโจทย์ประชาชน ร้านค้าไม่สนใจร่วมโครงการ แนะตั้งกองทุนเครดิตประชาชน เปิดโอกาสคนยากจนเข้าถึงแหล่งทุน สร้างอาชีพ สร้างรายได้อย่างมั่นคง

image

              นายวรวุฒิ โตวิรัตน์ รองเลขาธิการพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) กล่าวถึงโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ว่า จากเงื่อนไขโครงการดังกล่าวที่รัฐบาลแถลงรายละเอียดโดยกำหนดว่า ประชาชนที่สามารถเข้าโครงการได้ คือ ผู้มีอายุ 16 ปีขึ้นไป มีรายได้ไม่เกิน 840,000 บาท ต่อปี มีเงินฝากไม่เกิน 5 แสนบาท ส่วนร้านค้าต้องอยู่ในระบบภาษีฯ และยังไม่สามารถเบิกเงินในรอบแรกแต่ต้องไปใช้จ่ายก่อน ซึ่งไม่ตรงกับการประกาศนโยบายเรือธง ที่ได้หาเสียงในช่วงแรก ที่ระบุชัดเจนว่า ประชาชนทุกคนที่มีอายุเกิน 16 ปีขึ้นไปจะได้รับเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างเร่งด่วน และหลังจากพยายามผลักดันนโยบายเงินดิจิทัลให้เกิดขึ้นก็มีเสียงคัดค้านเพิ่มขึ้น ซึ่งผู้คัดค้านล้วนแต่เป็นระดับที่เป็นนักวิชาการชั้นนำ หรือแม้แต่อดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย รองผู้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทย อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โดยหลายคนมีความเห็นคัดค้านตรงกัน คือ ได้ไม่คุ้มเสีย และฟันธงว่าจะทำให้เกิดหนี้เพิ่ม กระทบกับเงินงบประมาณสำหรับใช้ในโครงการลงทุนที่จำเป็นของประเทศ และที่สำคัญที่สุด คือ การที่รัฐบาลไม่สามารถดำเนินนโยบายได้ตามที่ประชาชนคาดหวังจากคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้ อีกทั้งเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาได้ลงพื้นที่กับคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย เพื่อพูดคุยกับผู้ค้าที่อำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์ พบว่า มีความเห็นสะท้อนเป็นในทิศทางเดียวกันว่า โครงการแจกเงินดิจิทัลของรัฐบาล 10,000 บาท ต้องการให้แจกเป็นเงินสด เพราะสามารถจับจ่ายสินค้าจากผู้ค้าในระดับรากหญ้าได้ จะเกิดการหมุนเวียนลงไปถึงคนระดับล่างอย่างแท้จริง และที่สำคัญวิธีการใช้จ่ายเงิน ที่กำหนดให้ใช้จ่ายเงินรอบที่ 1 ระหว่างประชาชนกับร้านค้าขนาดเล็ก และรอบที่ 2 ขึ้นไป ให้เป็นการใช้จ่ายระหว่างร้านค้ากับร้านค้าโดยไม่จำกัดขนาดร้านค้า จัดเป็นปัญหาใหญ่สำหรับร้านค้าขนาดเล็ก โดยเฉพาะตามตลาดสดที่ได้ไปพูดคุยมา เพราะส่วนใหญ่พ่อค้าแม่ขายจะใช้เงินสดวันต่อวัน เมื่อค้าขายหมดต้องเตรียมของมาขายใหม่ในวันถัดไปทันที

                 นายวรวุฒิ กล่าวเพิ่มเติมว่า ตนมองว่านโยบายดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท อาจไม่ประสบความสำเร็จ ในการกระตุ้นเศรษฐกิจตามที่รัฐบาลวางเป้าหมายอย่างแน่นอน ไม่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้ตั้งแต่รากหญ้า และจะไม่ทำให้เกิดการหมุนเวียนเงินได้มากพอที่จะทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น แต่ผู้ที่จะได้ประโยชน์สูงสุดอาจเป็นเจ้าสัวเพียงไม่กี่ราย ที่มีร้านค้าปลีกอยู่ทุกชุมชน จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลพิจารณาแก้ไขปัญหาเหล่านี้ และมองนโยบายของพรรคไทยสร้างไทย ที่สามารถนำมาใช้เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจได้จริงตั้งแต่ระดับรากหญ้า และเกิดการหมุนเวียนของเงินได้ดีเป็นพายุหมุนตามวัตถุประสงค์ที่รัฐต้องการ อย่างเช่น “กองทุนเครดิตประชาชน” โดยประชาชนทุกคนมีเครดิตตั้งแต่ 10,000 บาท จนถึง 100,000 บาท เพื่อเป็นทุนตั้งตัวไปตลอดชีวิต โดยรัฐบาลให้กู้ยืมในอัตราดอกเบี้ยต่ำไม่เกินร้อยละ 1 ต่อเดือน ซึ่งนโยบายนี้จะทำให้คนยากจนเข้าถึงแหล่งทุนและสามารถสร้างอาชีพสร้างรายได้อย่างมั่นคง ต่างจากนโยบายแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ของรัฐบาล เพราะไม่ต้องใช้เงินมหาศาลถึง 500,000 ล้านบาท แต่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจจากฐานราก ให้เกิดพายุหมุนทางเศรษฐกิจได้อย่างแท้จริง

 

อรุณี ตันศักดิ์ดา ข่าว/เรียบเรียง

เฟซบุ๊ก พรรคไทยสร้างไทย ข้อมูล/ภาพ

 

 

 

ประมวลผลภาพ

วิดีโอ