โดย
นายประพนธ์ ตั้งศรีเกียรติกุล กรรมาธิการ(กมธ.)การสาธารณสุข วุฒิสภา พร้อมด้วยพลตำรวจโท บุญจันทร์ นวลสาย ประธาน กมธ.การกฎหมาย และการยุติธรรม วุฒิสภา ร่วมกันแถลงข่าวประเด็นการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีแพทยสภามีมติลงโทษแพทย์ กรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี รักษาตัวชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ
นายประพนธ์ กล่าวว่า ตามที่ประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการวุฒิสภา (วิปวุฒิสภา) ได้มีมติเมื่อวันที่ 16 พ.ค. 68 ให้ กมธ.สาธารณสุข และ กมธ.การกฎหมายและการยุติธรรม ร่วมกันพิจาณาศึกษากรณีมติแพทยสภาให้มีการลงโทษแพทย์จำนวน 3 คน อันเนื่องมาจากการดูแลรักษาผู้ต้องขังระดับสำคัญในสถานพยาบาลของรัฐ ซึ่งเรื่องนี้มีมูลเหตุมาจากมติของแพทยสภาครั้งที่ 5/2568 มีการพิจารณาเรื่องจากคดีจริยธรรมของแพทย์ที่ถูกกล่าวโทษว่าปฏิบัติไม่ถูกต้องตามหลักจริยธรรมและวิชาชีพเวชกรรม ในการดูแลผู้ต้องขังระดับสำคัญมาก โดยเฉพาะกรณีที่เกี่ยวข้องกับโรงพยาบาลราชทัณฑ์และโรงพยาบาลตำรวจ โดย ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกแพทยสภา ได้เปิดเผยในที่ประชุมว่า ที่ประชุมแพทยสภาได้มีมติตักเตือนแพทย์ 1 คน และพักใช้ใบประกอบแพทย์วิชาชีพเวชกรรม 2 คน เนื่องจากการให้ข้อมูลเอกสารทางการแพทย์อันไม่ตรงกับข้อเท็จจริง ข้อมูลหลักฐานที่ได้รับไม่มีหลักฐานเชิงประจักษ์ที่ชัดเจนว่ามีภาวะวิกฤตเกิดขึ้นกับผู้ป่วยรายดังกล่าว ซึ่งข้อเท็จจริงดังกล่าวสะท้อนถึงความไม่โปร่งใสในการให้ข้อมูลทางการแพทย์และขุ่นเคืองต่อกระบวนการยุติธรรมเหลื่อมล้ำต่อการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังรายอื่น จึงเป็นเหตุให้ กมธ.ทั้ง 2 คณะเห็นพ้องเพื่อพิจารณาศึกษาร่วมกันในครั้งนี้ เนื่องจาก กมธ.สาธารณสุขเห็นว่าเรื่องนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อจริยธรรมและมาตรฐานวิชาชีพแพทย์ซึ่งเป็นหัวใจของระบบสาธารณสุขที่ประชาชนควรเชื่อมั่น
ด้านพลตำรวจโท บุญจันทร์ กล่าวว่า ได้พิจารณาแล้วการให้ข้อมูลที่ไม่ตรงกับความเป็นจริงอาจส่งผลกระทบต่อหลักนิติธรรมและความเสมอภาคความเป็นธรรมในกระบวนการยุติธรรม จากมติดังกล่าวของ กมธ.ทั้ง 2 คณะจึงประชุมร่วมกันเพื่อกำหนดแนวทางการดำเนินงานในประเด็นจริยธรรมทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการยุติธรรมเพื่อกำหนดแนวทางให้ผู้ที่เกี่ยวข้อง เป้าหมายเพื่อจัดทำข้อเสนอเชิงระบบ และข้อเสนอเชิงนโยบายเพื่อเสนอต่อวุฒิสภา และส่งต่อไปยังหน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่โดยตรงในการพิจารณาดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจต่อไป
อรพรรณ ขันทองคำ ข่าว/เรียบเรียง
