29 ม.ค.67 – สว.สถิตย์ ตั้งกระทู้ถามกระทรวงคมนาคม ถึงแนวทางพัฒนาท่าอากาศยานแพร่ ด้าน รมช.คมนาคม แจง กระทรวงฯ วางแผนพัฒนาท่าอากาศยานแพร่ ก่อสร้างขยายทางวิ่งเป็น 45 x  2,100 เมตร ในปีงบ 71 รองรับเครื่องบิน 180 ที่นั่ง พร้อมกัน 4 ลำในเวลาเดียวกัน ยกระดับจังหวัดแพร่เป็นเมืองหลัก พัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนในพื้นที่ให้ดีขึ้น

image

            นายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ตั้งกระทู้ถามสดด้วยวาจารัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ถึงแนวทางพัฒนาท่าอากาศยานแพร่ ว่า ในมิติทางภูมิศาสตร์จังหวัดแพร่ล้อมรอบด้วยหลายจังหวัด มีความเหมาะสมเป็นศูนย์กลางคมนาคมและการท่องเที่ยว ซึ่งจากสถิติด้านเศรษฐกิจในปี 2564 พบว่า จังหวัดแพร่มีมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัด 30,800 ล้านบาท รายได้เฉลี่ยต่อหัวของประชาชน 82,700 บาท และพึ่งพาการผลิตภาคบริการมากที่สุดถึง ร้อยละ 73.1 ส่วนในด้านการท่องเที่ยว จังหวัดแพร่ เป็นเมืองรองมีสัดส่วนของโรงแรมที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว ร้อยละ 0.9 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัด ซึ่งการพัฒนาการคมนาคมทางอากาศ จะเป็นปัจจัยสำคัญของการเติบโตทางการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจโดยรวมของจังหวัด โดยปัจจุบันท่าอากาศยานแพร่ มีขนาดทางวิ่งยาว 1,500 เมตร สามารถรองรับเครื่องบินใบพัดลำเล็ก (ATR72) ซึ่งรองรับผู้โดยสารได้ต่ำกว่า 100 คน ส่งผลให้ค่าโดยสารมีราคาสูง จึงเห็นสมควรขยายทางวิ่งเป็น 2,100 เมตร รองรับอากาศยานขนาด 180 ที่นั่ง เพื่อให้ค่าโดยสารมีราคาถูกลง จึงขอถามว่า กระทรวงคมนาคมมีแผนขยายทางวิ่ง อาคารที่พักผู้โดยสาร และลานจอดรถของท่าอากาศยานแพร่ หรือไม่ รวมทั้งมีแผนงาน งบประมาณดำเนินการ และมีเป้าหมายดำเนินการให้แล้วเสร็จเมื่อใด

            ด้าน นางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ได้รับมอบหมายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นผู้ตอบกระทู้ถาม ชี้แจงว่า ปัจจุบันท่าอากาศยานแพร่ มีขีดความสามารถรับผู้โดยสารได้ 300 คนต่อชั่วโมง หรือ 8 แสนคนต่อปี รองรับเครื่องบินได้ 2 ลำ ในเวลาเดียวกัน ซึ่งในการพัฒนานอกจากคำนึงถึงงบประมาณในการลงทุนแล้ว ต้องคำนึงถึงความคุ้มค่าการลงทุนด้วย ทั้งนี้ท่าอากาศยานแพร่ เคยมีสายการบินนกแอร์ให้บริการ 3 วันต่ออาทิตย์ และจากข้อมูลสถิติช่วงเดือนเมษายน ปี 2565 – 2666 พบว่า มีเที่ยวบินจำนวน 314 เที่ยว มีผู้โดยสาร 16,604 คนต่อปี เฉลี่ยมีผู้โดยสาร 168 คนต่ออาทิตย์ หรือ 45 คนต่อวัน จากสถิติดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่า หากคิดค่าบริการเครื่องบิน 1 ลำ จะต้องมีผู้โดยสารเต็มลำ คือ 180 คน แต่ที่ผ่านมามีผู้โดยสารเพียง 50 – 60 คนต่อวัน เฉลี่ยร้อยละ 60 เมื่อผู้โดยสารมีปริมาณไม่มากพอถึงจุดคุ้มทุน ทำให้สายการบินประสบภาวะขาดทุนจึงได้ยกเลิกเที่ยวบินไป อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังมีท่าอากาศยานจังหวัดใกล้เคียง คือ จังหวัดน่าน ระยะทางห่างเพียง 123 กิโลเมตร มีสายการบินให้บริการวันละ 5 เที่ยว

            ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคม มีแผนพัฒนาท่าอากาศยานแพร่ โดยปัจจุบันได้จัดทำความเห็นข้อมูลเพิ่มเติมตามความคิดเห็นของคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรือ คชก. ครั้งที่ 1 เรียบร้อยแล้ว คาดส่งให้ คชก.พิจารณาได้ภายในเดือนมีนาคม นี้ และจะก่อสร้างในกรอบงบประมาณปี 2571 โดยจะขยายทางวิ่งเป็น 45 x  2,100 เมตร อาคารผู้โดยสาร รองรับได้จากเดิม 374 คน/ชั่วโมง เป็น 645 คน/ชั่วโมง ลานจอดรถยนต์ รองรับได้จากเดิม 67 คัน เป็น 259 คน และลาดจอดเครื่องบิน จาก 80 ที่นั่ง เป็น 180 ที่นั่ง รองรับ 4 ลำในเวลาเดียวกัน ประกอบด้วยสายการบิน ไทยแอร์เอเชีย ไทยไลอ้อนแอร์ ไทยเวียดเจ๊ท และการบินไทย ทั้งนี้ มีพื้นที่ที่จะต้องเวนคืนที่ดิน 508 แปลง มีหมู่บ้านที่ได้รับผลกระทบกว่า 150 ครัวเรือน โดย กระทรวงคมนาคม พร้อมส่งเสริมการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมจังหวัดแพร่ทุกมิติ ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจ มีจุดเด่นทางวัฒนธรรมการท่องเที่ยว ผู้ประกอบการมีความหลากหลาย เพื่อยกระดับจากเมืองรองเป็นเมืองหลักในอนาคต และหวังว่าการพัฒนาท่าอากาศยานแพร่จะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยว กระตุ้นการซื้อขายสินค้าชุมชน พัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนในพื้นที่ให้ดียิ่งขึ้น

อรุณี ตันศักดิ์ดา ข่าว/เรียบเรียง

ประมวลผลภาพ

วิดีโอ