นางสาวศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ รองประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร กล่าวภายหลังการประชุมคณะกมธ.เพื่อซักถามข้อเท็จจริงเกี่ยวกับหลักการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังหญิงและการดูแลรักษาทางการแพทย์ในเรือนจำ จากกรณีการเสียชีวิตของนางสาวเนติพร เสน่ห์สังคม หรือ บุ้ง ทะลุวัง โดยเชิญผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและภาคประชาสังคมเข้าร่วมประชุม ได้แก่ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ผู้อำนวยการทัณฑสถานหญิงกลาง ผู้อำนวยการทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ผู้แทนศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ผู้แทนสหพันธ์สากลเพื่อสิทธิมนุษยชน และผู้แทนแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย สำหรับเป้าหมายหลักของการประชุมครั้งนี้ คือการเปิดพื้นที่ให้กรมราชทัณฑ์ได้มีโอกาสชี้แจงรายละเอียดต่าง ๆ ให้มีความชัดเจน เพื่อคลายข้อสงสัยของสังคม และสร้างบรรทัดฐานให้กับนักโทษทางการเมืองคนอื่น ๆ ที่ยังอยู่ในเรือนจำว่าจะมีวิธีการป้องกันอย่างไรไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก
นางสาวศศินันท์ กล่าวว่าหน่วยงานจากกรมราชทัณฑ์ จำนวน 3 หน่วยงานไม่ได้ส่งตัวแทนมาเข้าร่วมการประชุม โดยระบุว่าติดภารกิจเกี่ยวกับโครงการราชทัณฑ์ปันสุข ซึ่งโดยปกติแล้วหากหน่วยงานติดภารกิจที่เลี่ยงไม่ได้จะมีการส่งผู้อื่นมาแทน แต่กรณีที่เกิดขึ้นกลับไม่มีการส่งตัวแทนใด ๆ มาร่วมประชุม ซึ่งตนเองมองว่าเป็นการประชุมประเด็นสำคัญที่สังคมกำลังตั้งข้อสงสัยและเคลือบแคลงใจอย่างยิ่ง เมื่อกรมราชทัณฑ์ไม่ได้ให้ความสำคัญกับการทำงานของคณะกมธ.จะยิ่งทำให้สังคมตั้งคำถามถึงกรมราชทัณฑ์หนักขึ้น อย่างไรก็ตามคณะกมธ. มีมติให้เลื่อนการประชุมออกไปก่อน และให้โอกาสกรมราชทัณฑ์ส่งตัวแทนเข้ามาชี้แจงรายละเอียดอีกครั้งในวันพุธที่ 29 พ.ค. นี้ หากกรมราชทัณฑ์ยังไม่เข้าร่วมประชุมอีกคณะกมธ.จะแถลงข่าวอย่างเป็นทางการต่อไป
ณัฐเดช เอียดปุ่ม /ข่าว/เรียบเรียง
