นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร วางพวงมาลาและกล่าวถึงเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ การแสดงออกทางการเมือง และพัฒนาการของระบอบประชาธิปไตย ตลอดจนการมีส่วนร่วมของประชาชน ในเหตุการณ์ 14 ตุลา 2516 ครบรอบ 51 ปี โดยมีนายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง เป็นผู้แทนนายกรัฐมนตรี นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร สมาชิกวุฒิสภา ตัวแทนจากพรรคการเมืองต่าง ๆ ทั้งพรรคเพื่อไทย พรรคประชาธิปัตย์ พรรคประชาชน พรรคเป็นธรรม และคณะก้าวหน้า ประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ผู้แทนญาติวีรชน 14 ตุลา ผู้แทนองค์กร ภาคประชาชน เยาวชน นักเรียน นิสิต นักศึกษา ร่วมวางพวงมาลา ณ บริเวณอนุสรณ์สถาน 14 ตุลา สี่แยกคอกวัว กรุงเทพฯ
ประธานรัฐสภา กล่าวรำลึกเหตุการณ์ 14 ตุลา ว่า เนื่องในวาระครบรอบ 51 ปีของเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 เป็นวันที่ประชาชนชาวไทยผู้รักในเสรีภาพและประชาธิปไตยได้ลุกขึ้นต่อต้านอำนาจเผด็จการทหารด้วยหัวใจที่เปี่ยมด้วยความกล้าหาญ แม้ว่าการต่อสู้ในวันนั้นต้องแลกด้วยเลือดเนื้อ และชีวิตของวีรชนผู้กล้า แต่ได้สร้างแรงบันดาลใจ และปลุกจิตสำนึกให้คนรุ่นหลังได้ตระหนักถึงคุณค่าของประชาธิปไตย ความยุติธรรมและสิทธิเสรีภาพ เหตุการณ์วันที่ 14 ตุลา 2516 จึงเป็นบทเรียนครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์ของชาติไทย ที่ได้ย้ำเตือนให้เราได้ตระหนักภัยร้ายแรงของการปกครองแบบเผด็จการ นอกจากนี้ ยังได้เห็นถึงพลังอันยิ่งใหญ่ของประชาชนในการต่อสู้เพื่อเรียกร้องสิทธิเสรีภาพ ถือว่าคนรุ่นปัจจุบันได้รับมรดกอันล้ำค่าที่สุดจากวีรชน 14 ตุลา นั่นคือสิทธิและเสรีภาพในการแสดงออกทางการเมือง และการมีส่วนร่วมในการกำหนดอนาคตของประเทศ การตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐ สิ่งเหล่านี้เป็นรากฐานสำคัญของสังคมประชาธิปไตยที่เราต้องร่วมกันปกป้อง
ทั้งนี้ กิจกรรมในช่วงเช้า มีการทำบุญตักบาตร พระสงฆ์ 14 รูป จากนั้นเป็นการประกอบพิธีกรรมทางศาสนา 3 ศาสนา ทั้งพุทธ อิสลาม และคริสต์ เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้แก่วีรชนผู้กล้า 14 ตุลา ที่เสียสละชีวิตทวงคืนประชาธิปไตยให้แก่ปวงชนชาวไทย
ทัดดาว ทองอิ่ม ข่าว / เรียบเรียง