16 มิ.ย.68-โฆษกพรรคไทยสร้างไทย เรียกร้องรัฐบาลยกระดับการฑูตเชิงรุกเร่งสื่อสารกรณีพื้นที่ทับซ้อนไทย-กัมพูชาถึงประชาคมโลก พร้อมชี้แจงเหตุผลที่ไม่ใช้กลไกศาลโลก วอนนายกรัฐมนตรีเร่งหารือ มาเลเซีย-จีน-ฝรั่งเศส เพื่อแสดงความมุ่งมั่นแก้ปัญหาด้วยสันติวิธี

image

        นายปริเยศ  อังกูรกิตติ โฆษกพรรคไทยสร้างไทย กล่าวถึงกรณีข้อพิพาทพื้นที่ทับซ้อนชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า สถานการณ์มีแนวโน้มที่จะบานปลาย หากรัฐบาลยังขาดการทูตเชิงรุกต่อและเร่งสื่อสารเชิงกลยุทธ์ไปยังประชาคมระหว่างประเทศ โดยเฉพาะการออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการในระดับนานาชาติ เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเน้นย้ำข้อมูลการรุกล้ำอธิปไตยของไทย และแสดงจุดยืนที่ชัดเจนถึงเหตุผลที่ประเทศไทยเลือกใช้กลไกคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม (JBC) แทนการนำคดีเข้าสู่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ศาลโลก) เพื่อเป็นการตอบโต้ความพยายามของกัมพูชาที่ต้องการดึงนานาชาติเข้ามากดดันประเทศไทย

        โฆษกพรรคไทยสร้างไทย กล่าวด้วยว่า ตนตั้งข้อสังเกตว่า เหตุใดกระทรวงการต่างประเทศ จึงยังไม่มีการเชิญคณะทูตต่างประเทศที่ประจำอยู่ในประเทศไทยเข้ามารับฟังคำชี้แจง ซึ่งแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับการทำงานของฝ่ายความมั่นคง ที่กองทัพได้เชิญผู้ช่วยทูตทหารจากชาติต่าง ๆ มาชี้แจงข้อเท็จจริงไปแล้ว ทั้งนี้ ตนมีข้อเสนอแนะให้นางสาวแพทองธาร  ชินวัตร นายกรัฐมนตรีเร่งประสานการหารือกับ 3 ประเทศที่มีบทบาทสำคัญในประเด็นนี้ ได้แก่ มาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียนปี 2568 จีน ซึ่งมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดและมีแผนซ้อมรบร่วมกับกัมพูชา ละฝรั่งเศส ที่พร้อมเป็นตัวกลางในการเจรจา ซึ่งการเปิดโต๊ะเจรจากับประเทศเหล่านี้ จะเป็นการแสดงให้ประชาคมโลกเห็นถึงความมุ่งมั่นของไทยในการแก้ไขปัญหาด้วยสันติวิธี และยืนยันว่าปัญหานี้สามารถบริหารจัดการในระดับทวิภาคีได้ หากปล่อยให้สถานการณ์เลยเถิดไปกว่านี้ ประเทศไทยอาจเสียที่ยืนบนเวทีโลก

 

ณัฐพล  สงวนทรัพย์  ข่าว/เรียบเรียง

ประมวลผลภาพ

วิดีโอ